คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 29

ตอนนี้ภายในวังกลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง แขกเรื่อในงานเลี้ยงก่อนนี้ต่างพากลับจวนของตนเป็นที่เรียบร้อย ส่วนคนตระกูลหมิงเป็นเย่วเทียนที่พาท่านแม่และน้องสาวสองคนเพียงเท่านั้นที่ล่วงหน้ากลับจวนมาก่อน

ภายในตำหนักหงส์ฟ้ามีหมอเข้าตรวจรักษาอาการป่วยสี่คนคือฮุ่ยฉิน เย่วฉี หัวหน้าหมอหลวงและหมอหลวงอีกหนึ่งคนเท่านั้น หัวหน้าหมอหลวงผู้นี้พอมีฝีมือด้านการรักษาพิษอยู่บ้างแต่ไม่ถึงขั้นเก่งกาจเขาก็เพิ่งศึกษาตอนที่ได้เข้ามารับใช้อยู่ในวังหลวงเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

“พิษที่ฮองเฮาได้รับนับว่าแปลกมากข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อนแต่จะลองตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง” หมอหลวงกู้เอ่ยบอกคนข้างกาย

ฮุ่ยฉินพยักหน้าอาการฮองเฮาตอนนี้เหมือนคนนอนหลับฝันร้าย ชีพจรไม่คงที่ใบหน้าซีดเซียวริมฝีปากม่วงคล้ำ “อาหารและเครื่องดื่มที่ฮองเฮาเสวยก็ได้รับการทดสอบพิษก่อนทุกครั้งจะเป็นไปได้หรือที่เข็มทดสอบพิษจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ” ฮุ่ยฉินเอ่ยถ้าไม่รู้ว่าเป็นพิษชนิดใดก็หายามาถอนพิษยากนักคงต้องรักษาไปตามอาการก่อน

ฮุ่ยฉินเขียนใบสั่งยาขนานหนึ่งก่อนเพื่อบรรเทาอาการ และคงต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจนกว่าหัวหน้าหมอหลวงจะหาพิษในร่างกายพบ และส่งใบเทียบยาให้หมอหลวงอีกคนหนึ่งรีบไปจัดการทันที

“พระองค์อาจทรงได้รับพิษมาจากทางอื่นที่ไม่ใช่อาหาร” หมอหลวงกู้เอ่ย

“แมลงพิษใช่หรือไม่ท่านหมอ” เย่วฉีเอ่ยเขาศึกษาพวกสมุนไพรรักษาเสียส่วนใหญ่เรื่องพิษนั้นก็เคยผ่านตาบ้าง

“อาจเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องนำอาการป่วยมาเทียบดูว่าเป็นพิษของแมลงชนิดไหนรบกวนท่านหมอหมิงสักครู่ประเดี๋ยวข้าจะรีบกลับมา” หมอหลวงกู้เอ่ย

“ท่านรีบไปเถอะชักช้าจะเสียการ” ฮุ่ยฉินเอ่ยจบ หมอหลวงกู้ก็รีบจากไปทันที ฮุ่ยฉินออกไปแจ้งอาการป่วยของฮองเฮาให้กับฮ่องเต้และโอรสทั้งสองที่เฝ้ารออยู่หน้าตำหนักรับรู้ เรื่องคนที่ลอบทำร้ายในครานี้จับมือใครดมไม่ได้เลย มันเหนือความคาดหมายมาก แต่หนึ่งสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้คือมีคนร้ายแฝงตัวอยู่ในวังหรืออาจจะเป็นคนใกล้ชิดก็เป็นได้ต่อจากนี้คงต้องระวังตัวกันให้มากขึ้นกว่าเดิม

“ท่านปู่...ซินเอ๋อร์นางชอบอ่านตำราเกี่ยวกับพิษนางอาจจะรู้ก็ได้ว่าฮองเฮาโดนพิษของแมลงชนิดใดลองถามซินเอ๋อร์ดูดีหรือไม่” เย่วฉีเอ่ยถามความเห็นของท่านปู่ น้องสาวของตนอ่านตำรามาตั้งแต่เด็กนางคงจะผ่านหูผ่านตามาบ้าง ตอนเด็กนางยังแอบปรุงยาพิษเล่นอยู่เลยเผลอๆตอนนี้นางอาจจะมียาพิษที่เอาไว้แกล้งตนอยู่ไม่น้อยเลยกระมัง

ฮุ่ยฉินเมื่อได้ยินหลานชายเอ่ยเช่นนั้นก็คิดตาม เรื่องนี้จะรั้งรอไม่ได้อาการของฮองเฮาไม่สู้ดีนักเกรงว่าถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันการณ์อาจจะเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ตามมา “เจ้ารีบไปพาตัวนางมา ไม่ๆเจ้ากลับไปเล่าอาการของฮองเฮาให้นางฟังอย่างละเอียดไม่ต้องพานางมา” ฮุ่ยฉินเอ่ยถ้าเรื่องนี้ต้องพึ่งพาหลานสาวจริงๆก็อาจจะต้องบอกให้หลานชายรับรู้ความลับของซินเอ๋อร์จะได้ช่วยกันรับมือในภายภาคหน้า

จวนตระกูลหมิงเย่วซินที่นอนไม่หลับเพราะกังวลเรื่องที่ฮองเฮาถูกพิษ เป็นห่วงท่านปู่ อาฉีและท่านพ่อที่ยังไม่กลับมา เลยมานั่งอ่านตำราในห้องแต่บังเอิญว่าพี่เย่วเทียนก็เข้ามาอ่านตำราในนี้เช่นกัน นางและพี่เย่วเทียนมีเรื่องนี้แหละที่เหมือนกันที่สุด เมื่อหยิบตำรามาได้เล่มหนึ่งก็เดินไปนั่งข้างๆพี่ชายหน้านิ่งทันทีแต่ยังไม่ทันได้พูดจาอาฉีก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาเสียก่อน

“ซินเอ๋อร์...ท่านปู่ให้พี่มาหาเจ้าเรื่องอาการป่วยของฮองเฮา” เย่วฉีเอ่ยทันทีที่เข้ามาไม่ต้องรอให้น้องสาวถามเพราะว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วนชักช้าไม่ได้

เย่วซินที่ได้ยินดังนั้นก็รู้ทันทีว่าท่านปู่ต้องการอะไร “รีบเล่ามาเร็วๆเลย” เย่วซินเอ่ยเร่งเพราะดูก็รู้ว่าเรื่องนี้คงชักช้าไม่ได้ จากนั้นเย่วฉีก็เริ่มเล่าอาการป่วยทั้งหมดอย่างละเอียดยิบ เย่วซินได้ฟังยังทึ่งราวกับว่านางอยู่ในห้องตรวจเสียเอง

“แมงมุมพิษจันทรา” เย่วซินเอ่ยบอกพี่ชายเมื่อฟังรายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วยเสร็จ “มันมีพิษที่กัดกินจิตใจคนทางความฝันอันโหดร้าย ไม่เท่านั้นพิษของมันยังแทรกซึมผ่านไปตามเส้นเลือดอย่างช้าๆจนผู้โดนพิษทนความเจ็บปวดไม่ไหวสิ้นใจไปนับว่าทรมานยิ่งนัก”

“มีทางรักษาหรือไม่” เย่วฉีและเย่วเทียนเอ่ยถามพร้อมกัน และทั้งสองก็ยังทึ่งกับความสามารถของน้องสาวที่นางรู้เรื่องพิษชนิดนี้

“มีพิษย่อมมียาถอนพิษอาจต้องใช้เวลาสักสามวัน ท่านเอายานี้ไปให้ท่านปู่ก่อนมันช่วยยับยั้งพิษได้บางส่วน” เย่วซินหยิบยาสีน้ำตาลอมแดงจำนวนสามเม็ดที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วส่งให้พี่ชายคนสนิทแล้วเอ่ยถามต่อ “อาฉีฮ่องเต้ร่ำรวยและมีของสะสมหายากมากมายใช่หรือไม่”

“ใช่เจ้าถามทำไมหรือ? อย่าบอกนะว่า...เจ้าจะเรียกค่ารักษาจากฮ่องเต้” เย่วฉีตาโตทันทีเมื่อคิดได้เช่นนั้น

“ก็ไม่เชิงหรอก การปรุงยามันต้องใช้วัตถุดิบมากมาย” เย่วซินเอ่ยเพียงเท่านั้นก็เดินไปหยิบพู่กันมาเขียนรายชื่อสมุนไพรที่ต้องการทันที นางเอาไม่มากหรอกแค่สามอย่างก็พอถือเสียว่าเป็นค่ารักษาก็ไม่ผิด รายชื่อสมุนไพรที่เขียนมานั้นมันหายากยิ่งนักแม้มีเงินก็ไม่อาจซื้อหามาได้ ไม่รู้ว่าเหล่าราชวงศ์ใยต้องสะสมมันกัน สู้นำมาใช้ประโยชน์เสียยังกว่า รายชื่อสมุนไพรที่นางเขียนนั้นมันก็มีส่วนผสมในตัวยารักษาพิษของฮองเฮาจริงเพียงแต่น้อยนิดเท่านั้น จริงแล้วไม่ต้องใช้ก็ยังได้เพราะมีสมุนไพรอย่างอื่นที่ทดแทนกันได้อยู่ แต่นี่คือโอกาสทองของนางเชียวนะจะพลาดได้อย่างไร

“มันต้องใช้สามอย่างจริงๆหรือ?” เย่วฉีเมื่อเห็นรายชื่อสมุนไพรก็ตาโตเอ่ยเสียงสั่น

“มันไม่ใช่แค่สามสิ่งนี้ยังมีสมุนไพรอีกหลายตัวเป็นส่วนผสม อยู่ที่ฮ่องเต้แล้วว่าจะตัดสินใจเช่นไร” เย่วซินเอ่ยฮ่องเต้จะทรงเสียสละสมุนไพรอันมีค่าแลกกับชีวิตของฮองเฮาหรือไม่อันนี้ต้องติดตามชม เย่วซินเอ่ยต่อ “ให้ท่านปู่ถ่ายเลือดพิษออกจากร่างกายผู้ป่วยวันและหนึ่งถ้วยจนกว่าสีเลือดจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อถ่ายเลือดทุกครั้งก็ให้พระองค์ทานยาที่ข้าให้ท่านไป แล้วถ้าได้สมุนไพรสามสิ่งนี้ก็รีบนำมาให้ข้าทันทีเข้าใจหรือไม่” ยาที่เย่วซินให้อาฉีไปนั้นนอกจากระงับพิษได้บางส่วนแล้วยังมีสรรพคุณบำรุงเลือดอีกด้วย

“เข้าใจแล้ว พี่ต้องขอตัวก่อนพี่ใหญ่ข้าขอตัว” เย่วฉีเอ่ยจบก็รีบจากไปทันที

“เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก ฝีมือด้านพิษของเจ้าคงไม่ธรรมดา” เย่วเทียนเอ่ยกับน้องสาว

“จริงๆเรื่องนี้ท่านปู่ปิดเอาไว้เป็นความลับเพราะกลัวบ่าวไพร่รู้แล้วจะนำไปพูดต่อเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่ได้คิดจะปิดบังพี่เย่วเทียนและอาฉีเลยนะ แต่พวกท่านไม่ได้กลับจวนมานานมากจึงไม่รู้เรื่องนี้และพอกลับมาพวกท่านก็ไม่ได้ถามก็เลยไม่ได้บอกเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ย

“ท่านพ่อ ท่านแม่ทราบเรื่องนี้หรือไม่” เย่วเทียนเอ่ยถาม

“ไม่ทราบเจ้าค่ะ พวกท่านทราบเพียงว่าข้าชอบศึกษาเรื่องพิษและปรุงยาพิษเพียงผิวเผินเท่านั้นไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย”

“เรื่องนี่มันก็สมควรอยู่หรอกที่ท่านปู่จะปิดเป็นความลับ เพราะคนที่ปรุงพิษถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีชั่วช้า มีคนต้องตายเพราะพิษที่พวกเขาปรุงมันขึ้นมาอย่างโหดร้าย ผู้ปรุงพิษก็จะถูกตามล่าจากคนที่โดนพิษของพวกเขา แต่คนที่ปรุงพิษนั้นก็ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ พี่ออกท่องเที่ยวไปทั่วยังมีพรรคต่างๆที่ปกครองตัวเองไม่ขึ้นกับราชวงศ์ หนึ่งในนั้นยังรวมถึงพรรคมารอย่างพรรคอสรพิษรวมอยู่ด้วย” เย่วเทียนเอ่ยเล่ายืดยาวกว่าครั้งไหนๆเพราะเห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะอันตรายกับร่างเล็กข้างกาย

“พรรคมารอสรพิษหรือ?ชื่อน่ากลัวจัง” เย่วซินเอ่ย

“พรรคนี้ร้ายกาจมากและยังไม่มีใครสามารถกำจัดได้ ยาพิษที่ส่งออกมานั้นมันทำร้ายคนมานักต่อนัก การก่อกบฏโค่นบัลลังก์ของแคว้นหานเมื่อหลายปีก่อนนี้ก็เป็นพรรคอสรพิษที่เป็นผู้ปรุงยาพิษให้กับผู้ก่อกบฏจึงทำให้สามารถยึดบัลลังก์มาโดยง่ายดาย” เย่วเทียนเอ่ยเล่าเมื่อเห็นว่าร่างบางสนใจ

“น่ากลัวจริงๆแล้วฮองเฮาถูกพิษเช่นนี้ไม่ใช่ว่ากำลังมีใครคิดจะก่อกบฏหรอกหรือเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยไปตามความคิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน