คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 35

ทางด้านหยางปิงหลังออกมาจากหอคณิกาก็เดินทางมายังโรงเตี๊ยมเรียบ ๆ เคียง ๆ ถามคนในนั้นถึงคนตัวเล็กว่านางอยู่หรือไม่ เมื่อทราบคำตอบว่านางยังไม่กลับมาก็ร้อนใจยิ่งขึ้น จึงเดินทางไปยังร้านอาภรณ์หมิงฟู่ที่จิวอิงเป็นคนดูแล เขาถามเอากับองครักษ์ที่พี่ชายส่งมาคุ้มกันนาง เมื่อทราบคำตอบก็เดินทางต่อไปยังจวนและยังร้านขายสมุนไพรที่ตอนนี้สหายเปิดโรงหมอควบคู่ไปด้วย หยางปิงเอ่ยบอกสหายว่าแค่แวะมาเยี่ยมเยียนเท่านั้นไม่ได้บอกว่าน้องสาวคนโปรดหายตัวไป แต่เขาให้องครักษ์คอยเฝ้าตามที่ต่าง ๆ เอาไว้แล้วถ้านางกลับมาคนของเขาก็จะมารายงานที่ร้านสมุนไพรแห่งนี้เอง แต่ถ้านางยังไม่กลับมาก่อนมืดนี้เขาคงต้องเล่าเรื่องให้สหายฟังอย่างแน่นอน…

จวนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ออกห่างจากตลาดพอสมควร จึงทำให้แถวนี้ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านเงียบสงบดียิ่ง ภายในเรือนตอนนี้มีบุรุษร่างเล็กใบหน้าละอ่อนถูกขังเอาไว้และยังไม่ได้คลายจุดจึงทำให้ร่างเล็กนอนนิ่งกลอกสายตาไปมาอย่างร้อนใจ

จ้าวไท่เหว่ยเปิดประตูเข้ามาเตรียมสอบถามหาความจริงจากคนด้านใน ดูจากท่าทางการแต่งตัวแล้วดูเหมือนบุตรขุนนางที่เพิ่งเติบโตเสียมากกว่าจะเป็นคนร้าย แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่อาจจะประมาทได้ เจ้าไท่เหว่ยเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียงเพื่อคลายจุดให้แล้วเอ่ยบอกคนตรงหน้า

“ห้ามคิดหนีไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!!” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันข่มขวัญบุรุษร่างเล็กตรงหน้า

เย่วซินถลึงตาใส่อย่างโมโห บุรุษตรงหน้ามีร่างกายสูงใหญ่พอ ๆ กับพี่จิ้นฝาน แต่ผิวพรรณกลับขาวใสใบหน้าถึงจะมีผมลงมาบดบังบ้างแต่ก็พอเดาออกว่าคงหล่อเหลาไม่น้อย แต่นิสัยนี่สวนทางกลับหน้าตาเป็นอย่างมาก เอะอะก็จะฆ่าอย่างเดียวเลย

“ท่านต้องการอะไรจากข้า?” เย่วซินเอ่ยถามออกไปอย่างไม่เกรงกลัวแม้ในใจก็แอบหวาดหวั่นอยู่บ้างก็ตามที

“ตอบข้ามาว่าเจ้าเกี่ยวข้องอันใดกับคนที่ถูกพิษนั่น” จ้าวไท่เหว่ยคาดคั้นเอาความจริงทันที

“ข้าบอกไปท่านก็ไม่เชื่อ แล้วจะมาถามทำไม” เย่วซินเอ่ยดักคอคนร่างสูงอย่างรู้ทัน คนผู้นี้ไม่ฟังและยังไม่ยอมเชื่ออีกเหนื่อยการจะพูดออกไป

“เจ้าก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันสิ” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกถ้าไม่ใช่คนร้ายจริงก็ต้องมีอะไรที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านิ่งเงียบไปจึงเอ่ยต่อว่า “ว่าอย่างไรหรือว่าเจ้าไม่มี”

เย่วซินกำลังคิดว่าจะเอาอะไรมาอ้างอิงคำพูดของนางให้คนตัวสูงเชื่อดี จริง ๆ นางก็มีหลายอย่างที่จะยืนยันได้แต่นางกลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมาแล้วทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนเอาได้

“ข้าเพียงเห็นบุรุษที่ถูกพิษพวกนั้นเป็นพิษชนิดเดียวกันกับที่ท่านปู่ของข้าโดนเมื่อหลายวันก่อน จึงคิดว่าพวกเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องจึงตามมาก็เท่านั้น” เย่วซินเอ่ยพร้อมกับหยิบขวดแก้วที่ใส่ผึ้งพิษของตัวเองออกมาและผึ้งพิษที่เพิ่งเก็บมาได้เมื่อครู่ยื่นให้คนตรงหน้าได้ดู

จ้าวไท่เหวยรับขวดที่ยื่นให้ทั้งสองขวดมาดูก็พบว่ามันเป็นผึ้งอย่างที่ว่าจริงๆแต่มันมีพิษหรือไม่เขาไม่รู้เพราะตนไม่เชี่ยวชาญทางด้านนี้จึงเอ่ยถามออกไป “ผึ้งพวกนี้มันมีพิษหรือ? เจ้าบอกว่ารักษาคนผู้นั้นได้จริงหรือ”

เย่วซินกลอกตามองเพดานอีกรอบแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้เขายังไม่ตายใช่หรือไม่ข้ากรีดเลือดพิษออกมาบางส่วน แล้วให้ยาระงับพิษไปเพียงเท่านั้น แต่ถ้ายังไม่รีบถอนพิษออกมาเขาอาจจะตายได้”

“เช่นนั้นเจ้าก็รักษาเขาเสีย” จ้าวไท่เหว่ยยอมเชื่อในคำพูดยินยอมให้คนตรงหน้ารักษาพิษ

“วันนี้ไม่ได้ใกล้จะมืดค่ำแล้วคนที่จวนข้าจะเป็นห่วงเอา แล้วอีกอย่างข้าต้องกลับจวนไปปรุงยาเพื่อถอนพิษ” เย่วซินเอ่ยบอกนางไม่อาจเอายาล้ำค่ารักษาคนผู้นั้นได้มันมีราคามากเกินไปไม่คุ้ม นางต้องไปปรุงยาถอนพิษของมันโดยตรงโดยการสกัดเอาจากเจ้าผึ้งพวกนี้นั่นแหละ

“เจ้าคิดจะหนี?” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยอย่างระแวงอีกครั้ง ถ้าบุรุษร่างเล็กผู้นี้กลับไปแล้วจะเอาอะไรมารับประกันได้ว่าคนผู้นี้จะกลับมาตามคำพูด เมื่อคิดบางอย่างได้จ้าวไท่เหว่ยจึงเอ่ยออกไป “เอาอย่างนี้ข้าจะกลับไปที่จวนกลับเจ้าด้วย”

“จะบ้าหรือจะไปได้อย่างไร” เย่วซินเอ่ยสวนขึ้นทันควันโดยไม่ต้องคิด ไอ้บุรุษนี่คิดอะไรอยู่ถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนี้

“ก็บอกคนที่จวนของเจ้าว่าข้าเป็นสหายมาขอพักด้วยก็เท่านั้นคนที่จวนของเจ้าคงไม่ใจดำหรอกกระมัง” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ย เหตุผลง่าย ๆ เพียงเท่านี้เป็นบุรุษเหมือนกันคงไม่แปลกที่จะพาสหายไปค้างที่จวน ถึงแม้จะดูต่างอายุกันบ้างก็ตามเถอะ

“ไม่ ๆ ไม่ได้เด็ดขาด” เย่วซินเอ่ยปัดทันทีพร้อมส่ายหน้าไปมา

“เช่นนั้นเจ้าก็ต้องอยู่ที่นี่ห้ามกลับไปเช่นกัน” จ้าวไท่เหว่ยเห็นท่าทีเช่นนั้นยิ่งทำให้เพิ่มความระแวงมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

“ท่าน!! ข้าอุตส่าห์พูดดีด้วยแล้วนะอย่าทำให้ข้าโมโห” เย่วซินเอ่ยขู่ด้วยคำพูดและใบหน้าบึ้งตึงชักเริ่มจะรับไม่ได้กับคำพูดเผด็จการเช่นนั้น

จ้าวไท่เหว่ยเห็นใบหน้าที่ดูจริงจังนั่นแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมา มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดเดียวคิดจะมาข่มขู่คนอย่างเขาหรือ แต่เอาเถิดเขาไม่อยากได้ชื่อว่ารังแกเด็กสักเท่าใดนักจะลองเชื่อใจดูสักครั้งแล้วกัน ว่าแล้วก็หยิบปิ่นหยกขาวที่ปักอยู่บนศีรษะคนร่างเล็กออกมา

“รักษาคนป่วยหายค่อยมาเอาคืน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน