บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 561

เมื่อเห็นองค์กรเทพเจ็ดดาวและองค์กรคำสาปสวรรค์ขึ้นมาขวางไว้ แปดยอดฝีมือที่อยู่รอบๆ คนใส่ชุดทอง ก็รีบขึ้นมารับมือทันที

"เกาะตงไห่มาทำธุระที่นี่!"

"ใครที่ไม่เกี่ยวข้อง รีบถอยออกไปซะ!"

"ถ้ากล้าขัดขวาง จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!"

เสียงพูดอย่างเย็นชา ดังออกมาจากปากของพวกเขา คนทั้งแปดเป็นเหมือนปืนยาวและดาบแหลมคมแปดด้ามที่ออกมาจากฝักอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหาร

แม้แต่คนบริเวณรอบๆ ที่ไม่รู้วิชายุทธเหล่านั้น ก็ล้วนมองเห็นกลิ่นอายแห่งการสังหารอันแรงกล้าที่อยู่เหนือศีรษะของพวกเขา

สีหน้าของเทพเจ็ดดาวและองค์กรคำสาปสวรรค์ ตกตะลึงขึ้นมาทันที!

พวกเขาคิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายเป็นแค่บอร์ดี้การ์ด แต่กลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ และเป็นยุคสมัยที่รุ่งเรือน พวกเขาไม่เกรงกลัวการออกศึกแม้แต่ครั้งเดียว

แต่ตอนนี้ หลังจากที่ประสบความโกลาหลรอบด้านแบบนั้น และดวงตาที่ระคายเคืองของพวกเขาจากแก๊สน้ำตา ที่ยังบวมแดงไม่หาย ทำให้กำลังรบลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลต่อความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะต่อสู้ของพวกเขาได้!

พวกเขามองตากันด้วยความเย็นชา

จี้ซิงยิ้มอย่างไม่เยเสและพูดว่า"ที่นี่คือพื้นที่ของพวกเรา และวันนี้เรามาชุมนุมกันที่นี่ โดยห้ามคนนอกไม่ว่าใครก็ตาม บุกรุกเข้ามาโดยพลการ"

"แม้แต่เกาะตงไห่ของพวกนาย ก็ไม่มีข้อยกเว้น"

"เว้นแต่ จะบอกจุดประสงค์ของพวกนายที่มาที่นี่ให้ชัดเจน"

สายตาของเขาจ้องมองไปยังใบหน้าของคนใส่ชุดทอง

ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจสถานะของคนชุดทองในเกาะตงไห่ แต่ต้องไม่ธรรมดาแน่

ในขณะเดียวกัน สภาพจิตใจของฉินเทียนเองก็สั่นสะเทือนเช่นเดียวกัน

เขารู้ว่า เกาะตงไห่ ภายใต้เจ้าของเกาะนั้น ยังมีสามโหวเย๋ หกกษัตริย์ และสิบแปดนายพลอีกด้วย

สถานะของสามโหวเย๋ รองมาจากเจ้าของเกาะเท่านั้น

คิดไม่ถึงว่า คนที่มานั้นจะเป็นหนึ่งในสามโหวเย๋

สถานะแบบนี้ พูดตามหลักแล้ว เพียงพอที่จะครอบงำเจ็ดเมืองทางใต้ได้ทั้งหมดเลยก็ว่าได้

เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและการต่อสู้ที่ไม่จำเป็น เขาแอบเพิ่มความระมัดระวัง ในขณะที่ฟื้นฟูกำลังภายในไปด้วย และรอดูการเปลี่ยนแปลงอย่าเงียบๆ

โหวเย๋คนนี้มีชื่อว่าหวังเหมี่ยน

"งานชุมนุมของเจ็ดเมืองทางใต้อย่างนั้นเหรอ?" เขาหัวเราะอย่างเย็นชา และค่อยๆ กวาดสายตาที่น่าเกรงขามและหยิ่งผยองออกมอง ซึ่งเหล่านักธุรกิจและบุคคลจากยุทธภพที่ถูกเขามองเห็น ต่างก้มหัวลงอย่างไม่มีทางเลือก

รู้สึกเหมือนต่ำต้อยในตัวเองยิ่งนัก

เปรียบเหมือนกับว่าสามัญชนสมัยโบราณ ได้พบกับท่านโหวที่กำลังออกตรวจตรา

และตอนนี้ หวังเหมี่ยนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

"เป็นการชุมนุมของกลุ่มคนเก่งจริงเสียด้วย"

"ถึงกระนั้นทุกคนก็อย่าตื่นเต้นไป พวกเราเกาะตงไห่ คบเพื่อนในโลกด้วยความสัจจะและคุณธรรมเสมอมา

"ที่ผมมาในวันนี้ แค่จะมาสะสางเรื่องส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช่เจาตนามาหาเรื่องแต่อย่างใด"

พูดพลาง เขาก็กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า:"พวกคุณ ยังไม่ถอยออกไปอีก!"

"ครับ ท่านโหว!"

เมื่อได้ยินเสียง แปดยอดฝีมือก็สำรวมความทระนงลง และถอยกลับไปยังข้างหลังของหวังเหมี่ยนด้วยความเคารพ

เรื่องส่วนตัว?

ทุกคนมองหน้ากันอย่างเลิ่กลัก ไม่รู้ว่าเรื่องส่วนตัวที่หวังเหมี่ยนพูดถึงนั้นคืออะไรกันแน่? หรือว่าจะเป็นคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับหวังเหมี่ยนทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?

ไม่ว่ายังไง บุคลิกและลักษณะท่าทางของหวังเหมี่ยน ก็ทำให้ทุกคนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา

"ท่านโหวต้องการทำธุระอะไร ที่จะใช้สถานที่ของเราก็บอกได้เลยครับ"

"ท่านโหวเป็นแขกจากแดนไกล พวกเราควรต้อนรับให้ดีถึงจะถูก" บางคนถึงกับเริ่มทักทายด้วยรอยยิ้ม และบางคนในนั้นก็ประจบสอพลออย่างไม่ขาดปาก

อย่างน้อย หากสามารถสานสัมพันธ์กับเส้นทางของเกาะตงไห่ได้ ก็จะสามารถหลุดพ้นจากที่เดิมได้อย่างไม่ได้สงสัย

หวังเหมี่ยนกวาดสายตาไปรอบๆ และเมื่อสายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่หน้าของเจี่ยงเส้าที่อยู่ในฝูงชน รอยยิ้มของเขาก็คอยๆ จางหายไป

แทนที่อำนาจแห่งการกดขี่

เมื่อเจี่ยงเส้าเห็นสายตาของหวังเหมี่ยน รีบล้มหัวลงทันที ด้วยท่าทางหวาดผวา โดยต้องการก้มหัวลงเพื่อหลบซ่อน

แต่มันได้สายเกินไปแลว

"เจ้าบ้านเจี่ยง เรื่องระหว่างเรา จะให้พูดเปิดต่อหน้าสาธารณชนหรือว่า นายจะไปกับฉัน แล้วพวกเราค่อยหาที่ค่อยๆ คุยกัน"

เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเหมี่ยน เจี่ยงเส้าสั่นเทาอย่างรุนแรง และหน้าแดงไปถึงหู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด