มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 12

“เจ้าหนูแซ่หลัว อย่าให้มันมากนักนะ !” จ้าวเหลี้ยงพูดขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“การเดิมพันครั้งนี้เจ้าเป็นคนเสนอเอง แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงกลับคำเสียล่ะ ? ทุกคนกำลังมองดูเจ้าอยู่นะ !” หลัวซิวพูดพลางยิ้มเยาะ

ในฐานะที่เป็นผู้ที่มักจะโดนดูถูกให้อับอาย หลัวซิวรู้ดีว่าหากวันนี้เขาละเว้นจ้าวเหลี้ยง อีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกซาบซึ้งเท่านั้น แต่จะจดจำความแค้นที่มีต่อตนเองเอาไว้อีกด้วย

“ฝึกทักษะยุทธ์ได้ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง เจ้าอย่าคิดได้คืบจะเอาศอกไปหน่อยเลย !” จ้าวเหลี้ยงเผยแววตาที่โหดเหี้ยมออกมา

“ใช่แล้ว หลัวซิว ในเมื่อเจ้าชนะแล้ว ทำไมยังจะต้องทำให้ต่างฝ่ายต้องลำบากใจด้วยล่ะ ?”

“ทุกคนล้วนเป็นลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์เหมือนกัน อย่างไรเสียก็ต้องพบเจอหน้ากันอยู่ดี หากเจ้าต้องการให้จ้าวเหลี้ยงก้มหัวคารวะเพื่อรับผิดจริง ไม่คิดว่ามันเกินกว่าเหตุไปหน่อยหรือ”

ในฝูงชน มีบางคนที่โดยปกติมีความสัมพันธ์อันดีกับจ้าวเหลี้ยงได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา

แววตาของหลัวซิวเย็นชา เขาเหลือบไปมองคนที่พูดขึ้นเหล่านี้ แล้วแสยะยิ้มออกมาพลางพูดว่า : “ถ้าหากคนที่แพ้คือข้า พวกเจ้าจะปล่อยข้าไปอย่างนั้นหรือ ?”

คนเหล่านี้เมื่อถูกหลัวซิวเหลือบมอง ต่างก็ถอยร่นไปด้วยความหวาดกลัว อันที่จริงแล้วทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่ไม่มีใครออกมาพูดเข้าข้างหลัวซิว เพราะไม่อยากล่วงเกินจ้าวเหลี้ยง

“ข้าจะทำให้เจ้าพิการซะ !”

ในขณะที่หลัวซิวกำลังข่มขู่คนเหล่านั้นอยู่ จ้าวเหลี้ยงซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามเขาก็รีบชิงลงมือในทันที ใบหน้าของเขาดุร้าย แขนทั้งสองข้างของเขาราวกับงูเหลือมที่เกี่ยวพันกันอยู่ ปราณในเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง

นี่เป็นอีกหนึ่งทักษะยุทธ์ที่อยู่ในระดับ3 เรียกว่า หมัดงูพิษคู่ ถึงแม้ไม่ทรงพลังเท่าหมัดแสงหลัว แต่ก็ลงมือด้วยความว่องไว ทำให้คู่ต่อสู้ไม่อาจป้องกันตัวได้ทัน

เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่มีวันยอมก้มหัวคารวะเพื่อขอโทษเด็ดขัด ดังนั้นจึงมีเพียงแค่การทำให้หลัวซิวพิการเท่านั้น ถึงแม้จะถูกคนอื่นกล่าวหาว่าไร้ยางอาย แต่ยังดีกว่าการไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีกเลยตลอดชีวิต

หลัวซิวเองก็คิดไม่ถึงว่าจ้าวเหลี้ยงจะเป็นคนที่ร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ ตอนที่อีกฝ่ายพุ่งตรงเข้ามาเพื่อโจมตีที่เอวของเขาโดยตรง หากถูกปะทะเข้าจริง ๆ ไม่ตายก็คงจะต้องพิการอย่างแน่นอน

“ท่ามังกรทะยาน !”

หลัวซิวตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาเคลื่อนไหวปราณในจนถึงขั้นสูงสุด จากนั้นจึงกระโดดลอยตัวขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี เขาเหยียดแขนทั้งสองข้างออกไป ราวกับมังกรที่กำลังโลดแล่นอยู่บนท้องฟ้า และพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเหลี้ยงอย่างจัง

จ้าวเหลี้ยงหน้าถอดสี เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวจะสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้อย่างฉิวเฉียดเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังโจมตีกลับมาได้อีก

เขารีบเปลี่ยนกระบวนท่า มือทั้งสองข้างปรากฏแสงสว่างจาง ๆ ออกมา เขาเลือกโจมตีโดยใช้ทักษะยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา หมัดแสงหลัว

“ตุบ !”

หมัดของทั้งสองคนปะทะกัน คนที่อยู่รอบข้างต่างรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดบนใบหน้าจากการที่ถูกกระแสลมพัดผ่านหน้าไป

ร่างกายของจ้าวเหลี้ยงสั่นเทา หมัดของเขาเกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นอย่างรุนแรง กระแสเลือดปั่นป่วนอยู่ในปราณใน จนเขาแทบจะกระอักเลือดออกมา

“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ !”

ตอนนี้เอง หลัวซิวยื่นมือออกไปจับ ปฏิกิริยาแรกของจ้าวเหลี้ยงคือการยกมือขึ้นป้องกัน แต่แขนทั้งสองข้างของจ้าวเหลี้ยงราวกับสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว และไม่ยอมเชื่อฟังเขา

ฝ่ามือของหลัวซิวเคลื่อนใกล้ใบหน้าของเขาเข้ามาทุกที ๆ แล้วกดลงไปบนหัวของเขา

มีแรงมหาศาลที่ปะทะลงมาบนร่างกาย จากนั้นเข่าทั้งสองข้างของเขาก็รู้สึกเจ็บปวด เขาถูกปลายเท้าของหลัวซิวเตะเข้า จนคุกเข่าลงนั่งดังพรวด

“ชายชาตรีต้องรักษาสัจจะ กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ายอมรับความพ่ายแพ้”

ใบหน้าของหลัวซิวเย็นชา เขากดหัวของจ้าวเหลี้ยงลงไปโขกกับพื้นดังตุบ

ความเจ็บปวดบนร่างกาย ไม่สู้ความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ จ้าวเหลี้ยงโกรธแค้นจนถึงขีดสุด เขากระอักเลือดออกมาและหมดสติไปในทันที

บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ