มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 19

จากนั้นหลัวซิวจึงเดินมายังร้านขายยาทิพย์อีกร้านหนึ่ง

“ยาฝึกปราณหนึ่งขวดราคาหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึง ?” เมื่ออยู่ในร้านค้าแห่งนี้ หลัวซิวก็ต้องตกตะลึงไปอีกครั้ง

ยาฝึกปราณเป็นยาทิพย์ระดับ1ที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับการกลั่นร่างมักจะใช้กันเป็นประจำ สามารถเพิ่มการดูดซับพลังจิตของปฐพี รวมไปถึงเพิ่มความเร็วในการฝึกปราณในอีกด้วย ตามที่หลัวซิวรู้มา ลูกหลานขุนนางจำนวนมากที่เป็นลูกศิษย์ในสำนักยุทธ์ มักจะใช้ยาทิพย์ในการฝึกตน

เมื่อเปรียบเทียบกับยาฝึกปราณแล้ว ยาบางชนิดที่ใช้ในการรักษาบาดแผลเช่นยาผงโรยแผลยากล้ามเนื้อ กลับมีราคาที่ถูกกว่ามาก

“ซื้อไม่ไหวอยู่ดี” หลัวซิวส่ายหัว แล้วเดินออกมาจากร้านค้าอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้เพิ่มความแข็งแกร่งของผลการฝึกตน ซึ่งเรื่องนี้แน่นอนว่ายาทิพย์และค่ายกลถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ด้วยฐานะของเขา กลับซื้อไม่ได้แม้กระทั่งขอที่ธรรมดาและอยู่ระดับล่างที่สุด

ไม่ช้า หลัวซิวอีกหนึ่งร้านค้าในตลาด ร้านค้าร้านที่สามขายอุปกรณ์ของนักยุทธ์

สิ่งที่เรียกว่าอุปกรณ์ของนักยุทธ์หมายรวมถึง อาวุธต่าง ๆ ที่นักยุทธ์ใช้ในการต่อสู้ นักยุทธ์ถูกแบ่งออกเป็นสามขั้น ทุกระดับจะแยกย่อยออกเป็นสี่ระดับได้แก่ ชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูง และชั้นยอด เท่ากับว่ามีทั้งสิ้น3ขั้น 12ระดับ

ในร้านค้าแห่งนี้มีขายอุปกรณ์ของนักยุทธ์อยู่อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งมีด หอก ดาบ ง้าว กระบอง หรือแม้แต่อาวุธลับก็มี และในบริเวณที่สะดุดตาที่สุด มีดาบยาวสีม่วงตั้งตระหง่านอยู่ ด้านข้างมีป้ายตั้งอยู่ และมีตัวอักษรเขียนเอาไว้ว่า : “อาวุธชั้นสูง กระบี่อสูรแสงสีม่วง !”

“เป็นอาวุธชั้นสูงหรือนี่ ?” หลัวซิวรู้สึกตกตะลึง เพราะอาวุธของนักยุทธ์ระดับนี้ มีเพียงนักยุทธ์ในแดนพรสวรรค์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ครอบครอง

หากเป็นนักยุทธ์ชั้นล่างครอบครองอาวุธระดับนี้ นอกเสียจากคนผู้นั้นจะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา ก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย เพราะคงต้องถูกนักยุทธ์คนอื่นที่แข็งแกร่งกว่าปล้นฆ่าเพื่อแย่งชิงไป !

กระบี่อสูรแสงม่วงเล่มนี้ ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของร้านค้าแห่งนี้โดยไม่ต้องสงสัย

“ฮ่าฮ่า พ่อหนุ่ม กระบี่อสูรแสงสีม่วงเล่มนี้ได้มาจากมือของปรมาจารย์เจี๋ยเฟย ทั่วทั้งเมืองชิงหยุนนับว่าเป็นอาวุธชั้นสูง และมีเพียงแค่สี่เล่มเท่านั้น !” ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้านพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“อาวุธเช่นนี้ราคาเท่าไหร่ ?” หลัวซิวถามด้วยความอยากรู้

“เท่าไหร่ ?” เจ้าของร้านวัยกลางคนมุ่ยปาก “การตีราคาของล้ำค่าเช่นนี้ด้วยเงินถือเป็นการดูถูกดาบเล่มนี้อย่างมาก ต่อให้มีคนเสนอราคาที่สูงลิบลิ่ว ข้าก็ไม่มีทางขาย นี่คือผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของปรมาจารย์เจี๋ยเฟยเลยนะ !”

หลัวซิวเงียบไป อย่าว่าแต่กระบี่อสูรแสงสีม่วงเล่มนี้เลย ต่อให้อาวุธชั้นล่างธรรมดา ๆ ทำก็ไม่มีเงินซื้อ

เมื่อครู่เขากวาดสายตามองราคาของอาวุธชั้นล่างดูแล้ว โดยมากราคาอยู่ที่สามร้อยถึงห้าร้อยก้อนหินพลังจิต

เห็นได้ชัดว่า เมื่อนำอาวุธไปเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ค่ายกลและยาทิพย์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกลับยิ่งมีราคาที่แพงกว่า เพราะอาวุธที่ยอดเยี่ยมเพียงหนึ่งชิ้น สามารถยกระดับความสามารถของนักยุทธ์ได้ในทันที

ทรัพย์สินทั้งหมดที่หลัวซิวมี อย่างมากก็ครอบครองได้แค่หินพลังจิตระดับล่างเพียงหนึ่งก้อนเท่านั้น

“ฝึกยุทธ์ต้องใช้เงินเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ?”

ครั้งนี้เขาเดินเล่นอยู่ในตลาด ทำให้หลัวซิวเข้าใจถึงความยากลำบากในการฝึกตนอย่างแท้จริง

เด็กที่เกิดในครอบครัวสามัญชนธรรมดา ถึงแม้จะมีพรสวรรค์เป็นเลิศ อย่างมากก็ไปได้ถึงแค่ระดับการกลั่นร่างขั้น5หรือ6เท่านั้น เพราะหากต้องการบรรลุไปถึงระดับที่สูงขึ้น จะต้องอาศัยการสะสมทรัพยากร แล้วทรัพยากรนั้นคืออะไร ?

ทรัพยากรนั้นก็คือความมั่งคั่ง คือหินพลังจิต !

หากมีหินพลังจิตไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก ก็สามารถบรรลุถึงวิชายุทธ์ชั้นสูงได้อย่างแน่นอน อาวุธที่แข็งแกร่ง อุปกรณ์ค่ายกล ยาทิพย์ ต่อให้เป็นแค่หมูตัวหนึ่ง หากใส่ทรัพยากรจำนวนมากเข้าไป ก็กลายเป็นยอดฝีมือได้เช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ