มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 36

"ลูกค้าสายตาเฉียบแหลมจริงๆครับ กระบี่เล่มนี้นักล่าอสูรคนอื่นๆได้มาจากซากปรักหักพังโบราณ ผ่านนักหลอมอาวุธตรวจสอบ วัสดุพิเศษ แม้จะถูกของชั้นสูงของอาวุธรบฟันก็ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด" เถ้าแก่ยิ้มพร้อมกับพูด

"หื้ม?" หลัวซิวไม่รู้ว่าเถ้าแก่ชมโอเวอร์เกินไปรึเปล่า ระดับของอาวุธรบมีการแบ่งแยกอย่างเข้มงวด อาวุธรบระดับต่ำทั่วไป ไม่สามารถต้านทานการฟันของอาวุธรบระดับสูงได้ ถึงแม้จะไม่หัก แต่ก็ต้องเสียงหาย

"แต่ว่าพลังของกระบี่เล่มนี้ด้อยไปหน่อย ท่ามกลางของชั้นสูงของอาวุธรบ ถือว่าธรรมดา ถ้าหากลูกค้าจะเอา แค่หินพลังจิตชั้นล่างแปดร้อยก้อนก็พอแล้ว" เถ้าแก่พูดต่อ

"แปดร้อย?" หลัวซิวเบิกตากว้าง พูดด้วยความโมโห: “กระบี่ชั้นล่างที่พลังทั่วไปแพงแบบนี้สักที่ไหน? ผมว่าบางชิ้นที่ทรงพลังยิ่งกว่าของชั้นกลางของอาวุธรบ ยังแค่แปดร้อยกว่าเท่านั้น"

หินพลังจิตชั้นล่างแปดร้อยกินไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ มีรายได้ของจอมยุทธ์หลายคน ไม่ถึงหนึ่งพันกว่าหินพลังจิตชั้นล่าง

"ถึงแม้พลังจะธรรมดา แต่ว่าวัสดุของกระบี่นี้พิเศษมากสามารถต้านทานการฟันของชั้นสูงของอาวุธรบได้ ดังนั้นราคาก็เลยต้องแพงเป็นธรรมดา" เถ้าแก่พูดด้วยรอยยิ้ม

ความเป็นกระบี่นี้อยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้ว ตอนนั้นซื้อเอาไว้ด้วยหินพลังจิตชั้นล่างสามร้อยกว่าก้อน นั่นก็เพราะชอบความพิเศษของวัสดุ

แต่ว่านักหลอมอาวุธหลายคนดุไม่ออกว่าเป็นวัสดุอะไรกันแน่ อยากจะเอากลับเข้าไปหลอมใหม่ก็ทำไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงวางทิ้งเอาไว้ที่นี่มานานหลายปี ไม่มีใครถามถึง เพราะถึงอย่างไรสำหรับนักยุทธ์แล้ว ความทรงพลังของอาวุธรบสำคัญยิ่งกว่า

แต่ว่านักหลอมอาวุธที่อยู่ด้านหลังร้านขายอาวุธกลับรู้สึกว่ากระบี่นี้มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา ด้วยเหตุนี้จึงตั้งราคาเล่มละหกร้อย

เหตุที่ขายแปดร้อย นั่นเป็นเพราะเถ้าแก่ร้านขายอาวุธเห็นว่าหลัวซิวยังหนุ่ม ไม่แน่อาจจะซื้อจริงๆก็ได้ ตนจะได้มีหินพลังจิตเพิ่มขึ้นสองร้อยก้อนอย่างไรล่ะ?

"แพงเกินไป ผมไม่เอา" หลัวซิวพูดพร้อมกับวางกระบี่ลงที่เดิม

"คุณลูกค้า เรื่องราคาเราคุยกันได้" เถ้าแก่หนังตากระตุก รีบพูด

"เจ็ดร้อยก้อนดีไหม? ราคานี้ถูกสุดแล้วถูกกว่านี้ไม่ได้แล้ว" เถ้าแก่กัดฟัน เหมือนว่าทำการตัดสินใจที่ยากเย็น

ถึงแม้หลัวซิวจะยังอายุน้อย ทว่าก็ไม่ได้ไม่ประสีประสาอะไรกับเรื่องในสังคม ดูท่าทีของเถ้าแก่ ก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการจะหลอกตน

"ผมว่าเถ้าแก่ไม่มีความจริงใจแม้แต่น้อย ในตลาดนี้มีร้านขายอาวุธรหลายร้าน ผมเปลี่ยนร้านดีกว่า" หลัวซิวหัวเราะในลำคอ ทำทีจะเดินออกไป

เถ้าแก่เห็นท่าทีของเขา กระวนกระวายขึ้นมาทันที ถ้าลูกค้าคนนี้ไปจริงๆ ก็จะไม่ได้เปอร์เซ็นต์อะไรแม้แต่น้อย

"หกร้อย!ลูกค้า นี่คือราคาที่ถูกที่สุดแล้ว ถ้าลูกค้ายังไม่พอใจ ผมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว"

ราคาหกร้อย ถึงแม้ราคาจะสูงกว่ากระบี่รบของชั้นล่างทั่วไปเล็กน้อย แต่ว่าวัสดุที่สามารถต้านทานการฟันอาวุธรบระดับสูง ราคานี้ถือว่าไม่เกินไป

หลัวซิวเองก็รู้สึกว่ากระบี่นี้พิเศษ พูดพึมพำ หยิบหินพลังจิตออกมา ซื้อกระบี่

เห็นหลัวซิวซื้อกระบี่ ใบหน้าของเถ้าแก่ฉายรอยยิ้ม

"ดำทั้งเล่ม ด้ามสลักคำว่า'มืด'เอาไว้ ถ้าอย่างนั้นเรียกแกว่ากระบี่เงามืดแล้วกัน!” หลัวซิวพอใจอย่างมาก เสียบกระบี่เข้าไปในฝัก สะพายไว้ด้านหลัง

นี่คืออาวุธรบชิ้นแรกในชีวิตของเขา รู้สึกตื่นเต้นมาก

ออกมาจากร้านขายอาวุธ หลัวซิวมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาทิพย์ ตั้งใจจะซื้อยา เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกตน

ยาที่ขายในเมืองชิงหยุน ล้วนเป็นยาระดับที่หนึ่งและระดับที่สอง ยาฝึกปราณคือยาระดับที่หนึ่งทั่วไป เหมาะสำหรับนักยุทธ์แดนกลั่นร่าง สามารถดูดกลืนพลังจิต การผนึกรวมและกลั่นแปรของปราณในได้อย่างรวดเร็ว

นอกเหนือจากนี้ยังมียาสำรับระดับต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นยาฝึกเอ็น ยาเกลากระดูกและยาเลือดปราณเป็นต้น

หลัวซิวมาครั้งนี้ ตั้งใจที่จะซื้อยาเลือดปราณาชนิดนี้ เหมาะสำหรับผู้ฝึกยุทธ์การกลั่นร่างขั้น8เพื่อผนึกรวมและกลั่นแปรเลือดลม

ขณะที่หลัวซิวกำลังเลือกยาอยู่นั้น กลิ่นหอมแตะจมูก เสียงหนึ่งดังขึ้น "เถ้าแก่ มียาคงจิตไหมคะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ