นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง

โชคดีที่ฉากนี้ไม่ได้ยืดเยื้ออยู่นาน เสียงสัญญาณดังขึ้นมา เหล่าเสนาบดีต่างลุกขึ้นยืน เสด็จอาเก้าเองก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายถึงขนาดนั้น เวลานี้จักรพรรดิจ้องมองมายังเสด็จอาเก้า จิตสังหารในดวงตาของเขาสงบลงอย่างน่าสงสัย
ขันทีข่มความกลัวในใจ บีบฝ่ามือเงียบ ๆ จากนั้นตะโกนออกมาว่า “หากมีกิจต้องการพูดให้ก้าวออกมา หากมิมีกิจจงเดินทางออกจากราชสำนัก”
เมื่อเสียงเงียบลง ใต้เท้าฝ่ายตรวจการเวินก็ก้าวออกมา หากขันทีใหญ่จำไม่ผิด ใต้เท้าเวินผู้นี้น่าจะเป็นผู้เกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาท เขาก้าวออกมาเป็นคนแรกเช่นนี้ มันไม่ได้หมายความว่าองค์รัชทายาทต้องการต่อต้านอย่างนั้นหรือ
“ข้าน้อยมีกิจชี้แจง” เหมือนกับที่ขันทีใหญ่คิดไว้ องค์รัชทายาทต้องการตอบโต้ การโต้กลับขององค์รัชทายาทในครั้งนี้ต่างจากความอ่อนโยนและความอดกลั้นในอดีต การโต้กลับขององค์รัชทายาทนั้นรุนแรงและไร้ซึ่งทางหลบหนี
นำโดยใต้เท้าเวิน จากนั้นมีคนของฝ่ายตรวจการก้าวออกมาอีกห้าถึงหกคน กล่าวหาตงหลิงจื่อลั่วว่าปฏิบัติตนโดนไม่คำนึงถึงกฎหมายในประเทศ ไม่เคารพองค์รัชทายาท ไม่รู้จักไตร่ตรองผิดชอบชั่วดี
กล่าวหาองครักษ์เสื้อโลหิตที่สมรู้ร่วมคิดกับลั่วอ๋องในการทำเรื่องนอกกฎหมาย ปล้น ฆ่า ทำลายข้าวของ กระทำการโหดร้าย ดูหมิ่นอำนาจองค์รัชทายาท ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี
คำพูดที่เฉียบคม ทัศนคติที่แข็งกร้าว และในขณะเดียวกันก็มีหลักฐานพิสูจน์ว่าลั่วอ๋องร่วมมือกับเสนาบดี ไม่เคารพองค์รัชทายาท มีความคิดไม่ดี วิงวอนให้องค์จักรพรรดิลงโทษต่อลั่วอ๋องเพื่อความมั่นคงของตงหลิง
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจวนเฟิ่ง เสนาบดีผู้นี้ก็ยังไม่แน่ใจ แต่จวนเฟิ่งถูกทำลายโดยองครักษ์เสื้อโลหิต ทำให้องค์รัชทายาทโกรธมากจนสังหารองครักษ์เสื้อโลหิตไปมากกว่าร้อยนาย เรื่องนี้เป็นความจริง
คนขององค์รัชทายาทกล่าวหาตงหลิงจื่อลั่วโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น คนของลั่วอ๋องเองก็ไม่ยอม ก้าวออกมาต่อสู้กับคนทางฝั่งขององค์รัชทายาท
คนทางฝั่งของลั่วอ๋องกล่าวหาว่าองค์รัชทายาทมีโรคประจำตัวซ่อนอยู่ อ่อนแอ ขี้ขลาดและไร้ความสามารถ ไม่คู่ควรกับตำแหน่งผู้ครองประเทศ ดูหมิ่นเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยแรงจูงใจที่ซ่อนเร้น ขัดขวางกิจการสาธารณะและ ไม่เข้าใจงานราชการ เย่อหยิ่ง จองหอง อวดดี ไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งองค์รัชทายาทเอาเสียเลย
เช่นเดียวกัน ทางฝั่งของลั่วอ๋องเองก็เตรียมหลักฐานเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นเป็นความจริง องค์รัชทายาทนั้นยากจะแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ เพื่อรากฐานอันมั่งคั่งเป็นร้อยปีของตงหลิง โปรดองค์จักรพรรดิทรงถอดถอนองค์รัชทายาทจากตำแหน่งมกุฎราชกุมาร
ภายใต้การต่อสู้อันดุเดือด ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร ตอบโต้กันอย่างเมามัน เห็นจักรพรรดิไม่ทรงพูดอะไร คนอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้ามามีส่วนร่วมในการเติมเชื้อไฟ สาบานว่าจะทำให้ทุกอย่างนั้นดีกว่าที่เคยเป็น และหนทางที่ดีที่สุดก็คือปลดองค์รัชทายาทและลั่วอ๋องออกจากตำแหน่งทั้งคู่
เมื่อเหล่าขุนนางทะเลาะกันโดยอ้างถึงกฎหมายและข้อบังคับของราชวงศ์ อ้างถึงหนังสือที่ถูกบัญญัติไว้ อ้างถึงหลักธรรมคำสอนของบรรพชน เหล่าแม่ทัพที่ได้ยินเช่นนั้นต่างพากันง่วงนอน ต่อให้พวกเขามีความคิดเข้ามาช่วยเหลือ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร
นายพลนั้นมีองค์ชายที่พวกเขาชื่นชอบเป็นการส่วนตัว หากเหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องใหญ่มันจะทำให้สถานการณ์ในตงหลิงนั้นลุกเป็นไฟ ดังนั้นแม้ว่านายพลจะไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน แต่ก็ยังคงตั้งอดทนฟังสิ่งที่เหล่าขุนนางทะเลาะกัน
ยกเว้นผู้เป็นกลางและอยู่ข้างเดียวกับจักรพรรดิ ทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่รู้ว่าเวลานี้จักรพรรดิทรงกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเหล่าเสนาบดีทะเลาะกันแต่กลับไม่มีวี่แววว่าจะเข้าห้ามเลยแม้แต่น้อย
การทะเลาะกันครั้งนี้ กินเวลาตั้งแต่เช้าไปถึงเที่ยง จักรพรรดิยังคงไม่เคลื่อนไหว จดจ่ออยู่กับการอ่านหลักฐานที่เหล่าเสนาบดีเป็นผู้มอบให้ จักรพรรดิยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกตกใจ
ที่แท้ลูกชายของเขาก็ทำเรื่องมากมายลงไปโดยที่เขาไม่รู้ แต่เรื่องที่ทำลงไปส่วนใหญ่นั้นก็อยู่ในขอบเขตที่เขาสามารถทนรับได้ ด้วยเสด็จอาเก้าที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอยู่ข้างกายเช่นนี้ ความอดทนของจักรพรรดิก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
หลักฐานทั้งหมดล้วนเป็นความจริง แต่หลักฐานเพียงเท่านี้ คิดจะให้จักรพรรดิปลดองค์รัชทายาทและลั่วอ๋องลงจากตำแหน่งนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาทหรือลั่วอ๋อง ทั้งสองไม่ใช่คนที่สามารถแตะต้องได้โดยง่าย
เขาปิดหลักฐานทั้งหมด ยื่นให้ขันทีใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง แม้ว่าเหล่าขุนนางด้านล่างจะทะเลาะกันมาโดยตลอด แต่เวลานี้พวกเขาก็ได้หยุดการกระทำเหล่านั้นลง จ้องมองมาทางจักรพรรดิ เมื่อเห็นจักรพรรดิอ่านหลักฐานทั้งหมดเป็นอันเรียบร้อย เสนาบดีผู้เฉียบแหลมผู้หนึ่งก็คุกเข่าและกล่าวออกมาว่า “องค์จักรพรรดิ องค์รัชทายาทมิอาจแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ได้ ท่านจะต้องปลดองค์รัชทายาทลงจากตำแหน่งมกุฎราชกุมาร”
คนทางฝ่ายขององค์รัชทายาทนิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหวราวกับนัดกันไว้เป็นอย่างดี เสนาบดีสิบกว่าคนคุกเข่าลง ตะโกนออกมาว่า “องค์จักรพรรดิ ลั่วอ๋องมีจิตใจชั่วร้าย มีความทะเยอทะยานสูง คิดแต่ทำเรื่องเลวร้าย ท่านจะต้องปลดเขาลงจากตำแหน่งและกักเอาไว้”
คนทางฝั่งขององค์รัชทายาทนั้นยิ่งกว่า พวกเขาเกือบจะพลั้งปากพูดออกมาว่าลั่วอ๋องวางแผนก่อกบฏอย่างลับ ๆ
การทะเลาะกันครั้งนี้ จักรพรรดิไม่ได้แสดงความโกรธแต่อย่างใด หลังจากที่เหล่าเสนาบดีสงบลง จักรพรรดิก็มองไปยังเสด็จอาเก้า
“น้องเก้า เจ้ามีความคิดเห็นเช่นไรกับเรื่องนี้?” จักรพรรดิต้องการผลักดันให้เสด็จอาเก้าออกมาสู่แนวหน้า
มองผิวเผินเหมือนเสด็จอาเก้าจะไม่สนใจอะไร แต่ความจริงเขาสังเกตเรื่องราวทั้งหมดมาโดยตลอด เขาเข้าใจเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นลั่วอ๋องหรือองค์รัชทายาท จักรพรรดิจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น และวันนี้ก็ไม่มีทางลงมือเป็นอันขาด
เขาเองก็ไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องน่าเบื่อเช่นนี้ เสด็จอาเก้าตอบออกมาโดยไม่เคลื่อนไหว “องค์จักรพรรดิ เมื่อวานนี้องครักษ์เสื้อโลหิตได้ทำการทำลายชุดพระชายาอ๋องเก้า เพื่อความชอบธรรม
ปากบอกว่าไม่พูดอะไร แต่เป้าหมายของเขาก็คือตงหลิงจื่อลั่ว คำพูดนี้ของเสด็จอาเก้านั้นแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่พอใจตงหลิงจื่อลั่ว จักรพรรดิให้เขาพูด เขาไม่มีทางพูดว่าตงหลิงจื่อลั่วเป็นคนดี
เฮอ แค่ให้พูด คำแรกที่พูดออกมาก็เป็นเรื่องของชุดพระชายาอ๋องเก้าถูกทำลายเลยงั้นหรือ?
ดวงตาคนของฝั่งองค์รัชทายาทเป็นประกาย รีบใช้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้างความวุ่นวาย ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจเป็นเส้นทางแห่งความตายของตงหลิงจื่อลั่ว พวกเขาจะต้องทำให้ถึงที่สุด
เริ่มกล่าวหาในเรื่องใหม่ คำพูดเหล่านั้นเป็นการดูหมิ่นตงหลิงจื่อลั่วเป็นอย่างมาก ประกอบกับคำพูดของเสด็จอาเก้า สถานการณ์นี้ไม่เอื้ออำนวยต่อตงหลิงจื่อลั่วเอาเสียเลย แม้ว่าจักรพรรดิจะไม่ปลดตงหลิงจื่อลั่วลงจากตำแหน่ง
แม้จักรพรรดิจะไม่พอใจตงหลิงจื่อลั่ว แต่เมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว เขาก็ใช้โอกาสนี้ในการพูดแทนตงหลิงจื่อลั่วในเรื่องของการทำลายชุดพระชายาอ๋องเก้า “ลั่วอ๋องเพิ่งจะรับตำแหน่งผู้นำขององครักษ์เสื้อโลหิตไปได้ไม่นาน เป็นการยากที่จะควบคุมร่างกายและจิตใจขององครักษ์เสื้อโลหิตได้
ตงหลิงจื่อลั่วเป็นบุตรแห่งมังกรของจักรพรรดิ หากตงหลิงจื่อลั่วถูกปลดจากตำแหน่งจริง แต่องค์รัชทายาทกลับไม่ได้รับโทษแต่อย่างใด สิ่งเหล่านี้ไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าตนเองงั้นหรือ
อ่าน นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นวนิยาย บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง
ชุดนวนิยาย นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ของ อาช้าย ได้อัปเดตบทล่าสุดแล้ว บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง. ที่ บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง ตัวละครชายและหญิงยังคงอยู่ที่จุดสูงสุดของปัญหา ซีรีส์ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ อาช้าย บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง เป็นนวนิยายที่ดีมาก ดึงดูดผู้อ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง ได้นำรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นมาให้ผู้อ่าน เนื้อหาใดที่ผู้เขียน อาช้าย จะนำเรามาที่ บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง ติดตาม นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง ได้ที่เว็บไซต์ th.readeraz.com.
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ อาช้าย บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 874 ปลดรัชทายาทหรือลั่วอ๋อง