นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 13

"ร้องอะไรกัน ไม่เคยเห็นคนจับงูหรือไง?" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างอารมณ์เสีย

ด้วยความที่นางเป็นศัลยแพทย์ มือของนางจึงถือเป็นสมบัติอันล้ำค่า นางให้ความสำคัญกับมือมากกว่าชีวิต โดยปกติแล้วนางจะไม่ให้มือของนางเกิดปัญหาแม้แต่น้อย แม้แต่ผิวของมือนางถูกสะกิดเพียงเล็กน้อย นางก็จะเอ็กซเรย์เพื่อตรวจดูในทันที เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ

การยื่นมือล้วงเข้าไปจับงู หากนางยังมีทางเลือกอื่น นางไม่มีวันทำเช่นนี้เป็นอันขาด

เมื่อมือของนางไปสัมผัสกับเจ้าตัวที่เย็นๆลื่นๆ เฟิ่งชิงเฉินก็ถึงกับขนลุกขนชัน ตอนนี้นางรู้สึกไม่ดีเลย

นางไม่กลัวงู แต่นางเกลียดสัตว์ที่ตัวเย็นเฉียบ เมื่อไปสัมผัสโดนเข้า มันน่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าคลำศพเสียอีก

สิ่งที่นางเกลียดนักเกลียดหนา จะต้องรีบจัดการให้สิ้นเรื่อง

มือขวาจับงูเอาไว้ ส่วนมือซ้ายก็ถือมีดเล่มสั้น ท่ามกลางความตะลึงงันของผู้คน มีดเล่มนั้นพลันจวกเข้าที่ท้องงูอย่างจัง

เมื่อนางกรีด.....ท้องของงูก็ถูกผ่าออก เฟิ่งชิงเฉินควักดีงูออกมา

ตั้งแต่ขั้นตอนแรกถึงตอนนี้ มือของนางนิ่ง ตาไม่กะพริบ เชี่ยวชาญยิ่งกว่านักฆ่างูเสียอีก

"ตุบ!"

ซากงูไร้วิญญาณถูกเฟิ่งชิงเฉินทิ้งลงไปในตะกร้า

หลายคนที่มามุงดูต่างเอามือมาทาบอก พลางคิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้จะฆ่าคนง่ายดายเช่นนี้หรือไม่นะ

"กลืนลงไป" เฟิ่งชิงเฉินนำดีงูไปป้อนเด็กน้อย

เด็กน้อยได้แต่นิ่ง เขายังคงตกตะลึงกับภาพหญิงสาวอรชรที่เพิ่งจับงูและฆ่างูเมื่อครู่นี้

"ชักช้าอยู่ทำไม ไม่อยากมีชีวิตต่องั้นหรือ? ถ้าบอกข้าตั้งแต่แรกข้าจะได้ไม่ช่วยเจ้า" เฟิ่งชิงเฉินพยายามออกแรงยัดดีงูเข้าไปในปากเด็กน้อย แถมยังส่งสายตาเร่งให้เด็กน้อยรีบๆกลืน

ความอดทนของนางมีจำกัด เด็กน้อยคนนี้โชคดีที่บังเอิญมาเจอนางในวันที่นางออกมานอกจวนพอดี มิฉะนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว

"อ๋อ อ้อ......" เด็กน้อยยังใจลอยไม่หาย แต่ก็อ้าปากตามที่เฟิ่งชิงเฉินบอก

"อย่ากัดจนแตกล่ะ กลืนลงไปเลย ถ้าไม่ทำตาม ตายขึ้นมาข้าไม่รู้ด้วยนะ"

เฟิ่งชิงเฉินยัดดีงูเข้าไปในปากเขา แล้วจึงหยิบผ้าสีขาวผืนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อเพื่อเช็ดคราบเลือดที่มีดสั้นและมีดผ่าตัด ก่อนจะนำไปเก็บในช่องเก็บของพิเศษตรงขานาง โดยไม่สนใจสายตาของผู้คน

นางจัดการทุกอย่างอย่างชำนิชำนาญ กว่าฝูงชนจะเรียกสติคืนมาได้ เฟิ่งชิงเฉินก็กำลังเช็ดคราบเลือดออกจากมือของตัวเอง......

ตอนนี้นางค่อยดูเรียบร้อยขึ้นมาหน่อย ไม่มีคราบเลือดและกิริยาที่ทะมัดทะแมงแล้ว

เอือก......บางคนเห็นแล้วก็คลื่นไส้ แต่เมื่อเฟิ่งชิงเฉินหันไปมอง ก็รีบเก็บอาการในทันที

ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวชะมัดเลย

"มีน้ำไหม? ขอน้ำสักกะละมังสิ ข้าจะล้างมือ" ด้วยความที่ตนเองเป็นคุณหนู เฟิ่งชิงเฉินจึงออกคำสั่งไป

แม้คำสั่งนั้นจะไม่ได้เปี่ยมล้นด้วยอำนาจ แต่ก็สะกิดใจผู้ฟังบางคนได้

"มีๆๆขอรับ" เจ้าหน้าที่ที่ยืนอ้าปากค้างอยู่นานได้สติแล้วจึงรีบไปหาน้ำมาให้เฟิ่งชิงเฉินอย่างขะมักเขม้น

เมื่อนำน้ำมาแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ได้วางน้ำลงบนพื้น แต่ยื่นให้ตรงหน้าเฟิ่งชิงเฉิน ให้นางได้ล้างมืออย่างสะดวก เจ้าหน้าที่ดูแลนางอย่างเต็มอกเต็มใจ

ราวกับว่าการรับใช้เฟิ่งชิงเฉินนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก

จริงๆแล้ว ผู้คนที่มามุงดูเหตุการณ์ล้วนอยากแย่งเจ้าหน้าที่ทำงานนี้

การที่ได้เข้าไปยลโฉมหน้าของแม่นางนักปราบงูใกล้ๆ เป็นโอกาสที่หายากยิ่งนัก

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินล้างมือเสร็จแล้ว ก็นำผ้าที่เปื้อนเลือดทิ้งลงไปในกะละมังน้ำ

"ไปจัดการให้ดีๆล่ะ น้ำนี่มีพิษ" เฟิ่งชิงเฉินยังคงออกคำสั่งต่ออย่างไม่เกรงใจ

"ขอรับ ขอรับ" เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ได้รู้สึกว่าตนถูกจิกหัวใช้แต่อย่างใด

ทว่าความจริงก็คือ เขาขวัญหนีดีฝ่อจากการกระทำของเฟิ่งชิงเฉินต่างหาก

นี่มันผู้หญิงอะไรกันนี่

นางถึงกับพกมีดติดตัวอยู่ตลอดเลยหรือ

จับงู ฆ่างูโดยไม่กะพริบตา ท่าทางของนางดูเก่งกาจกว่าผู้ชายเสียอีก

ผู้ที่ตกใจมากที่สุดก็คือเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนนั่นเอง

ซีหลิงเทียนเหล่ยลูกตาแทบถลน แม้แต่ชายชุดดำหน้ากากเงินที่ยืนมองอยู่ไกลๆ ก็ยังเห็นว่าเขาจ้องตาไม่กะพริบ และซีหลิงเทียนเหล่ยก็เดินไป......

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อยู่ตรงนั้นนาน การที่มีคนมามุงดูนางมากมาย เฟิ่งชิงเฉินคุ้นชินไปเสียแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ