นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 18

หลังจากที่ได้ยินเสียงคนขับรถม้าดังมาจากที่ไกล ๆ นั้น แส้ก็ยังคงถูกฟาดออกมาไม่หยุดไม่หย่อน รถม้าเสมือนกับเสือที่กำลังวิ่งเข้ามากลืนกินคนก็ไม่ปาน ผู้คนที่อยู่รอบด้านจึงได้แต่วิ่งหนีหายไปหมด

ทหารยามที่คอยดูแลรถม้าทั้งสองข้างทางนั้น ก็หยิ่งยโสโอหังยิ่งนัก พวกเขาพลันใช้แต่หางตามองดูผู้คนเท่านั้น

ทั้งยโสโอหัง! ทั้งเลวร้ายยิ่งนัก!

เป็นการกลับชาติมาเกิดใหม่ที่ท้าทายยิ่ง

แม้จะเป็นสตรีเช่นเดียวกัน แต่เหตุใดสตรีบ้านอื่นถึงมีชีวิตที่ดูดียิ่งนัก

เมื่อกลับมามองดูชีวิตของตนเองแล้ว เหตุใดถึงได้ดูอดสูถึงเพียงนี้

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินมองเห็นมาแต่ไกล ๆ นั้น ก็ได้ยืนส่ายหัวไปมา มารออีกฟากหนึ่งอย่างเชื่อฟังในทันที

ในแคว้นนี้ อย่างไรก็ไม่อาจะขาดลูกหลานที่ทำตัวหยิ่งยโสโอหังเช่นนี้ไปได้ พวกเขาล้วนแต่คิดไปเองว่า ตนเองเป็นปู ที่มีอำนาจบารมีของพ่อแม่คอยคุ้มครองอยู่ ถึงได้ปฏิบัติต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์เสมือนฟาง ที่ต้องถูกเหยียบย่ำเช่นนี้

อย่าได้โทษที่นางเอ่ยถึงปัญหาชีวิตของมนุษย์อยู่เสมอเลย ในฐานะที่นางเป็นหมอ นี่เป็นความคุ้นชินที่เกิดจากการทำงานของนางเอง

ในความคิดของนางนั้น สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดก็คือชีวิตของมนุษย์ แต่ในชีวิตนี้ นางล้วนแต่พบเจอแต่กับ ผู้คนที่ไม่ค่อยนึกเห็นใจกับชีวิตพวกเขามากเท่าใดนัก

รถม้าค่อย ๆ แล่นผ่านเฟิ่งชิงเฉินไป เฟิ่งชิงเฉินหาได้สนใจมองไปยังคนที่อยู่ในรถม้าไม่ แต่คนด้านในรถม้าสามารถมองเห็นนาง

"หยุดรถ หยุดรถ" พลันเสียงร้องโวยวายของสตรีดังออกมาจากด้านในรถม้า แม้ว่าคนขับจะเย่อหยิ่งเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะคิดดูหมิ่นเจ้านายของตน เมื่อได้ยินคำสั่งนี้ขึ้นมา พวกเขาก็ดึงบังเหียนม้าให้หยุดในทันที

เสียงดังเอี๊ยด ม้าทุกตัวพลันส่งเสียงร้องออกมาในทันที กีบเท้าด้านหน้าของพวกมัน พลันถูกยกสูงขึ้นชี้ไปในอากาศ ราวกับว่า กำลังจะทำให้รถม้าคว่ำลง

โชคดีที่ ทั้งคนขับและม้าได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เมื่อคนขับรถม้าใช้แรงดึงเชือกนั้น ม้าก็พลันสงบลงและหยุดลงด้วยความปลอดภัย

ทหารยามพลันเดินเข้ามาล้อมรถม้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาใกล้ได้ พร้อมกับทุกคนที่อยู่สองข้างถนนนั่งคุกเข่าลงในทันที

"เข้าเฝ้าองค์หญิง ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"

ผู้คนในถนนทั้งสาย มีเพียงทหารยามและเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้นที่ยืนอยู่ เป็นจุดเด่นพิเศษ

ไม่มีทางเลือก นางไม่เคยคุกเข่าลงทันทีเมื่อเห็นเหล่าราชวงศ์

ดวงตาพลันกวาดตามองไปยังผู้คนที่อยู่ทั้งสองข้าง พลันพบว่า เหลือเพียงนางผู้เดียวที่ยืนอยู่ เฟิ่งชิงเฉินจึงเกิดอาการลังเลเล็กน้อย ยามที่กำลังจะนั่งคุกเข่าลงนั้น

ในขณะเดียวกัน ก็พลันเห็นเด็กสาวในชุดอาภรณ์สีน้ำเงินกระโดดลงมาจากรถม้า พร้อมกับก้าวเดินมาหาเฟิ่ง ชิงเฉินในทันที

เด็กสาวผู้นี้ดูมีเสน่ห์ยิ่งนัก การเคลื่อนไหวของนางในแต่ละครั้ง เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งในทุกๆ ย่างก้าว ในมือของนางพลันปรากฏให้เห็นถึงแส้สีทอง ทำให้ทั่วร่างของเด็กสาวผู้นี้แผ่ให้เห็นถึงรังสีที่ดุร้ายออกมา

ผัวะ!

แส้ที่ถูกเหวี่ยงมากระแทกพื้น ทำให้เกิดรอยสีขาวลึกบนพื้นดินในทันที

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินได้เห็นท่าทางเช่นนี้ ก็พลันรับรู้ได้ในทันทีว่า อีกฝ่ายกำลังมุ่งเป้ามาที่นาง

เนื่องจากว่าเด็กสาวผู้นี้ เป็นน้องสาวร่วมแม่ของตงหลิงจื่อลั่ว องค์หญิงอันผิง

เด็กสาวที่ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ ทั้งกิริยาวาจาที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและไร้มารยาท

เมื่อองค์หญิงอันผิงเห็นการแสดงออกที่นิ่งสงบของเฟิ่งชิงเฉินนั้น ร่องรอยของความไม่พอใจ ก็พลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กสาวในทันที พร้อมทั้งพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า " เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเห็นเปิ่งกงจู่แล้วยังไม่คิดคุกเข่าทำความเคารพอีกหรือ "

คุกเข่า?

เฟิ่งชิงเฉินพลันชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็รู้แจ้งได้ในทันใด

เมื่อเห็นราชวงศ์ควรที่จะนั่งคุกเข่าลงจริง ๆ ในเมื่อนางต้องอาศัยอยู่ในโลกนี้ ก็ย่อมต้องเชื่อฟังกฎของโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม เข่าของนางหาได้มีค่าเท่าทองคำไม่ นางสามารถคุกเข่าลงได้

หาได้มีความกดดันทางใดไม่ เฟิ่งชิงเฉินพลันค่อยๆ คุกเข่าลงแต่โดยดี

"ชิงเฉินขอเข้าเฝ้าองค์หญิง ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเพคะ"

คุกเข่า การคุกเข่าเป็นการคุกเข่าลงทั้งสองข้าง หาใช่ด้วยหัวใจไม่ เฟิ่งชิงเฉินจึงนั่งคุกเข่าลงได้อย่างง่ายดาย โดยมิได้รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย

เมื่อมองไปเห็นเฟิ่งชิงเฉินที่คุกเข่าลงต่อหน้านางนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง องค์หญิงกลับรู้สึกไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉินนั้น หาได้แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพในตัวขององค์หญิงเช่นนางไม่

นางจำได้ว่า ในคราก่อน หากเฟิ่งชิงเฉินเห็นนางเมื่อใด มักจะตกใจสะดุ้ง ยั งมิทันจะได้เปิดปากอันใด แววตาของนางก็เจือไปด้วยความแดงก่ำแล้ว พร้อมกับนั่งคุกเข่าลงแทบเท้าของนางด้วยอาการสั่นเทา แต่ในวันนี้ เฟิ่งชิงเฉินดูผิดปกติยิ่งนัก

"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้า" องค์หญิงอันผิงร้องเรียก แต่นางก็มิรู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี

คำพูดที่คิดจะดูหมิ่นเฟิ่งชิงเฉินในอดีต นางไม่สามารถเอ่ยออกมาได้เลยในยามนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ