สนามบินนานาชาติจงโจว เทอร์มินอล 1
ใกล้จะเที่ยงตรงแล้ว เซี่ยจิ่นยืนรออยู่ตรงทางออกอย่างร้อนรน
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นคนที่รู้จักแยกแยะ รู้ว่าป้าของเซียวเซิ่งจะออกมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้กล้าเดินไปด้านหน้า เพียงแค่ยืนหลบอยู่ข้างๆแล้วมองดูเงียบๆ
เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยเลยว่า ผู้หญิงคนนั้นกับพี่สะใภ้มีความสัมพันธ์กันแบบไหน? ป้าจะต้องโหดแค่ไหนนะ ถึงอยู่เหนือเซี่ยจิ่นได้?
ในขณะนี้ครุ่นคิดนั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่มั่นคงและทรงพลัง เธอหันหน้าไปมองด้วยสัญชาตญาณ......
มองเห็นชายวัยกลางคนร่างสูงเดินตรงเข้าไปในห้องผู้โดยสารขาเข้า เขาแต่งตัวดี มีออร่าที่น่าเกรงขาม ผมสีดำหนาของเขาถูกหวีอย่างประณีตและเป็นมันเงา ซึ่งส่งพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่มองไม่เห็นออกมา และแม้ว่าเขาจะแสดงท่าทีปกติแต่กลับให้รู้สึกที่เข้มงวดจริงจัง
ทุกคนต่างหลีกทางออกให้ตามๆกัน ให้ผู้สูงศักดิ์คนนี้ได้เดินไปก่อน
“นี่ นี่ใครหรือ โอเวอร์ขนาดนี้เลยหรือ?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถามคนที่อยู่ข้างๆเบาๆ
“เธอไม่รู้จักหรือ? เขาคือบุคคลที่สูงศักดิ์ที่สุดในแวดวงสังคมชั้นสูงในจงโจว คุณเซียวจวินเซิงที่มีชื่อเสียง” น้ำเสียงของคนที่พูดมีความเคารพแฝงอยู่
เซียวจวินเซิง?
พ่อตาของเธอ แม้ว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจะไม่เคยเจอพ่อจองเซียวเซิ่ง แต่ก็รู้ชื่อของพ่อตา
เพราะฉะนั้นเธอจึงตั้งใจมองดูอยู่บ้าง หล่อจริงๆ
หน้าตาหล่อเหลา หุ่นเป๊ะจนชวนให้ตกตะลึง เสน่ห์ของผู้ชายที่ได้เจริญเต็มวัยแล้วไม่สามารถต่อต้านได้จริงๆ เพียงแต่ให้ความรู้สึกเย็นชาเกินไป บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีหน้าตาที่โดดเด่น แต่กลับไม่มีใครกล้าสบตาเขา
เซียวเซิ่งเหมือนคุณพ่อของเขามาก เป็นลูกแท้ๆแน่นอน ฮาๆ......
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังจะหันหลังแล้วเดินจากไป
เดิมทีเธอแค่กลัวว่าป้าของเซียวเซิ่งจะทำให้เซี่ยจิ่งลำบากใจ เธอจะได้เข้าไปช่วยรับมือหน่อย แต่ตอนนี้สามีของเธอมาแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่จะไม่ต้องการลูกสะใภ้ที่ไม่ได้ถูกยอมรับคนนี้แล้ว กลับละกัน
เซียวจวินเซิงเดินไปทางเซี่ยจิ่ง ฝีเท้าที่มั่นคงนั้นให้ความรู้สึกปลอดภัย มองก็รู้เลยว่าเป็นผู้ชายดีๆที่รักภรรยามาก
“หนูจิ่น” เขาหยุดฝีเท้าลง เสียงทุ้มดูสง่าอย่างมาก
หนูจิ่น ใกล้จะอายุห้าสิบแล้วแต่ยังถูกสามีดูแลเอาใจแบบนี้ เซี่ยจิ่นคงจะมีความสุขมากสินะ? เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหยุดฝีเท้าลงอย่างทนไม่ไหว หันกลับไปมอง
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เซี่ยจิ่นก็ตกใจ หันหลังกลับไปทันที......มองเห็นสามีที่หล่อเหลาอย่างมากกำลังเดินมาหาเธอ ใต้เท้าเหยียบแสงออร่าไว้ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม มันทำให้เทพเจ้าเกิดลังเลได้เลย
เธอรู้สึกดีใจ รู้สึกว่าชาตินี้ไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ “จวินเซิง คุณมาได้อย่างไร?”
“มาอยู่เป็นเพื่อนคุณไง” เซียวจวินเซิงจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “หนูจิ่น มานี่สิ”
เซี่ยจิ่นเดินไปตรงหน้าของสามี เธอเงยหน้าสบตากับสามี ดวงตาค่อยๆแดงขึ้นมา ใบหน้าดูอ่อนเพลียและหมดแรง
ไม่ว่าใครหากรออยู่ที่สนามบินเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ก็ต้องอยากร้องไห้กันทั้งนั้น เมื่อเซี่ยจิ่นเห็นสามีก็แทบจะอดไม่ไหว มีความช้ำใจ พึ่งพิง ความรู้สึกซับซ้อนต่างๆนานาถูกกระตุ้นออกมาจนหมด น้ำตาคลอเบ้า
“ฉันผิดเอง ที่ไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและพี่มีเส้นตรงกลางได้” เซียวจวินเซิงใช้มือข้างหนึ่งวางบนไหล่ของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็จับคางของเธอเสยขึ้น
“ไม่ค่ะ จะโทษคุณไม่ได้” เซี่ยจิ่นส่ายหน้า เธอไม่ดีเอง ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้.....กับเซียวจวินม่อ
“อย่าร้องไห้เลย ฉันจะคิดหาวิธีเอง” เซียวจวินเซิงใช้มือปาดน้ำตาของเซี่ยจิ่น ก้มหน้าจูบริมฝีปากสีแดงสวยนั้นอย่างแผ่วเบา......
ในที่สาธารณะแบบนี้ เซี่ยจิ่นรู้สึกอายอยู่บ้าง ริมฝีปากที่สั่นคลอนถูกบังคับให้ยอมรับความรักของสามี......
ดูเหมือนว่าเซียวจวินเซิงและภรรยาก็รักกันดีนี่! เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้ม “จะต้องมีความสุขตลอดไปนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น