พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 310 คำนับ 100 ที

และพวกคนชั้นล่างพวกนั้นได้เพียงสบตาซึ่งกันและกันครู่หนึ่ง แล้วก็กลับไปในมุมของตน แต่ละคนเหมือนกับเห็ดต้นหนึ่งที่กอดหัวเข่าไว้แน่นแล้วหลบออกไปไกลๆ เพื่อเลี่ยงจากการปะทะต่อสู้นี้ที่จะเกิดขึ้น ศีรษะหดลงไปต่ำๆ
“พวกเจ้า พวกเจ้าทุกคน! พวกเจ้าอย่าลืมนะว่าสัญญาไถ่ตัวของพวกเจ้ายังอยู่ในมือของข้า! เชื่อไหมว่าตอนนี้ข้าจะขายพวกเจ้าทิ้งให้หมดเลย!” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกล่าวด้วยโทสะออกมา
เฟิ่งชิงหัวเอนพิงอยู่ข้างเสา ก้มศีรษะมองดูและเล่นปลายนิ้วของตัวเองอยู่ เอ่ยปากกล่าวออกมาช้าๆ ว่า: “อย่าว่ากระนั้นกระนี้เลย ฮูหยินเฉิงเซี่ยงร้ายกาจมากเลย กุมสัญญาไถ่ตัวของทุกคนเอาไว้ น่าเสียดายนะ ตอนนี้อยู่ในคุก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ออกไปเมื่อไหร่ มิเช่นนั้นหากพวกเจ้าไม่เชื่อฟังเช่นนี้ ย่อมต้องมีจุดจบที่น่าสยองมากแน่นอน”
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงฟังคำพูดที่แปลกๆ นี้ของเฟิ่งชิงหัว แต่ก็บอกไม่ถูกว่ามันแปลกตรงไหน เพียงแค่เห็นคนพวกนั้นขยับก็พุ่งเข้าไปทันที แล้วก็เตะอย่างรุนแรงไปยังคนชั้นล่าง 2-3 คนที่อยู่ใกล้ๆ นั้น 2-3 ที
“ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่องทั้งหมดเลย”
ในที่สุดก็มีคนถูกแตะจนรับไม่ได้ และในตอนที่เท้าของฮูหยินเฉิงเซี่ยงมาทางนั้น ก็กอดขาที่สั้นและใหญ่ของนางเอาไว้แน่นเลย และจากนั้นก็ดันออกไปอย่างรุนแรง
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงล้มลงไปนั่งกับพื้น โขลกถูกกระดูกก้นกบเข้าพอดี ได้เพียงรู้สึกว่าความเจ็บปวดได้เสียดแทงขึ้นมาจากตรงนั้น ปวดจนแม้แต่เสียงร้องออกมาก็ยังไม่กล้าร้องเลย
“ท่านแม่!” หนานกงเยว่หลีรีบลุกขึ้นไปประคองร่างขึ้นมา ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกลับโบกมือขึ้นติดต่อกัน
นางต้องค่อยๆ คืนสภาพเดิมก่อน ตอนนี้ยังไงก็ไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นมา
ร่างของนางเดิมทีก็อ้วนอยู่แล้ว แม้ว่าหนานกงเยว่หลีอยากจะอุ้มนางขึ้นมาก็ไม่อาจทำได้
คนนั้นที่ผลักนางก็เอามือยันพื้นแล้วลุกขึ้นยืน ส่งเสียง “ถุย” ไปยังฮูหยินเฉิงเซี่ยงทันที: “เข้ามาในกรมคลังแล้วยังกล้าที่จะใช้อำนาจบาตรใหญ่อีก ท่านยังอยากออกไปหรือ? สมคบกับกบฏ ทรยศชาติ ไม่ฆ่าล้างเก้าชั่วโคตรก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ท่านยังคิดว่าจะสามารถถอนตัวออกไปอย่างปกติได้อีก นังคิดจะขายพวกเราทิ้งด้วย ท่านมีชีวิตออกไปให้ได้ก่อนเถอะ!”
“ปกติลงโทษพวกเราตามอำเภอใจก็ช่างเถอะ ตอนนี้ท่านไม่ดูตัวท่านเองบ้างเลยว่สก็ถูกขังอยู่ในคุกใหญ่เหมือนกับพวกเรา จะมีสูงส่งกว่าพวกเราได้งั้นเหรอ?”
คำพูดของคนผู้นั้นเห็นได้ชัดว่าได้จุดประกายความในใจของคนชั้นล่างอื่นๆ เช่นกัน มีคนไม่น้อยที่มีคำพูดที่คับแค้นใจต่อฮูหยินเฉิงเซี่ยง ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้กำแพงล้มผู้คนผลักดัน คนพวกนั้นพอคิดถึงว่าเป็นเพราะตระกูลเฉิงเซี่ยงทั้งตระกูลทำร้ายให้พวกเขาต้องมีจุดจบในสภาพนี้ หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง แม้แต่ลูกเมียพ่อแม่ของตนต่างก็ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ความหวาดกลัวในใจก็กลายเป็นอารมณ์โมโหที่พร้อมจะปะทุขึ้นมา
แต่ละคน เรียนแบบท่าทางของคนผู้นั้นก่อนหน้านี้ เดินไปด้านหน้าของฮูหยินเฉิงเซี่ยง สาดคำพูดทิ่มแทงไปยังนางคนละคำพูด
ในตอนนี้ฮูหยินเฉิงเซี่ยงอยากจะด่าคนพวกนี้ว่าไอ้เหี้ย แต่ว่าเนื่องด้วยพลังที่แตกต่างทำให้นางได้เพียงนั่งอยู่อย่างนี้ไม่กล้าพูดอะไรสักคำเลย
คนพวกนั้นกลับไม่ได้สร้างความลำบากให้หนานกงเยว่หลีและเฟิ่งชิงหัว หลังจากด่าว่าจนพอใจแล้วก็กลับไปนั่งลงในตำแหน่งเดิมก่อนหน้ากัน
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงฟื้นตัวลุกขึ้นมาได้ ในใจก็ขุดเอาบรรพบุรุษ 18 โคตรของคนพวกนี้ขึ้นมากล่าวทักทายไปรอบหนึ่ง ยิ่งตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าหลังจากตนเองออกไป สิ่งแรกที่ทำก็คือขายคนพวกนี้ทิ้งให้หมด
เสียงหัวเราะของเฟิ่งชิงหัวขัดจังหวะแนวความคิดของนาง ฮูหยินเฉิงเซี่ยงหันหน้ามาจ้องไปยังเฟิ่งชิงหัว: “เจ้าหัวเราะอะไรของเจ้า หากข้าต้องตาย เจ้าก็หนีไปรอดหรอก ตอนนี้เจ้าเป็นผีของจวนอ๋องเฉินไม่สำเร็จ ทำได้เพียงเป็นผีของจวนเฉิงเซี่ยงสินะ!”
เฟิ่งชิงหัวเลิกคิ้วแล้วกล่าวว่า: “เหตุใดต้องเป็นผีด้วยเล่า เป็นคนอยู่ไม่ดีหรือไง? ฮูหยินท่านอายุอานามก็มากแล้ว แต่ข้ายังสาวอยู่เลย เกรงว่ารอจนท่านไปเกิดใหม่แล้วข้ายังมีชีวิตอยู่ดีๆ อยู่เลย”
ตอนนี้เจ้าควรจะเอาใจข้าจะดีที่สุด ตอนนี้จวนอ๋องเฉินทอดทิ้งเจ้าไปแล้ว หากเจ้ารู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร ข้าก็จะฟื้นใจยอมรับเจ้าเพื่อเห็นแก่ว่าเคยเป็นคนในครอบครัวของจวนเฉิงเซี่ยงด้วยกัน” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงนั่งอยู่บนพื้น นั่งขัดสมาธิด้วยสีหน้าที่พึงพอใจ บนพื้นที่อยู่ใต้ตัวนางเต็มไปด้วยรอยเท้า ฟางหักๆ ขึ้นกล้องมาก
เฟิ่งชิงหัวอดที่จะสำลักแล้วหัวเราะออกมาไม่ได้: “เอาใจเจ้า? หลังจากนั้นล่ะ?”
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงก็ยิ่งลำพองใจมากขึ้น: “หากเจ้าคุกเข่าต่อหน้าข้าในตอนนี้ แล้วคำนับศีรษะต่อข้า 100 ที ความใจดีของข้าก็อาจจะบังเกิด บอกทหารทางการพวกนั้นว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลของพวกเราแล้ว ให้พวกเขาปล่อยเจ้าออกไป”
หนานกงเยว่ลั่วได้ยินถึงตรงนี้กลับรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลแล้ว จึงรีบกล่าวขึ้นว่า: “ท่านแม่ อย่าพูดอีกเลย น้องรองนาง......”
คนเขาเป็นถึงพระชายาท่านอ๋องเจ็ด” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงขัดจังหวะคำพูดของนางขึ้นมา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า: “ก็แค่เป็นเพียงคนที่ถูกปลดจากตระกูลสวามีคนหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้ก็เป็นพระชายาท่านอ๋องเจ็ดที่ตกอยู่ในที่คุมขังเหมือนกันกับพวกเรา เป็นอย่างไร
เฟิ่งชิงหัวกล่าวว่า: “ท่านสามารถปล่อยข้าออกไปได้ อำนาจของท่านมากขนาดนั้น? หากมีถึงขึ้นนี้ท่านก็ไม่คิดหาวิธีช่วยลูกสาวของท่านเล่า? ช่วยข้าที่เป็นคนไม่ควรช่วยเช่นนี้ทำไมกัน”
“เยว่หลียังไม่ได้ออกเรือน จะไปมีเหตุผลอะไรที่ไหนกัน แต่เจ้าไม่เหมือนกัน เจ้าแต่งออกไปแล้ว สุภาษิตพูดไว้ดี ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป อีกอย่างความสัมพันธ์ของเจ้ากับพ่อของเจ้าก็เหมือนน้ำกับไฟไปถึงจุดที่แตกหักกันไปแล้ว เพียงแค่ข้าป่าวประกาศอย่างแน่ชัดว่าพวกเจ้าไม่ติดค้างหนี้บุญคุณกันแล้ว
นี่เกรงว่าจะเป็นน้ำเสียงที่ดีที่สุดครั้งเดียวที่ฮูหยินเฉิงเซี่ยงเผชิญหน้ากับเฟิ่งชิงหัว
บอกว่าช่วยนาง แต่น้ำเสียงนั้นกลับไพเราะเป็นพิเศษ
เฟิ่งชิงหัวยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วกล่าวว่า: “ฟังไปแล้วดูเหมือนว่าก็มีเหตุผลอยู่บ้างหลายเท่าเช่นนั้น คิดไม่ถึงว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงจะมีจิตใจเมตตาเช่นนี้ได้ ที่ผ่านมาข้าปฏิบัติต่อฮูหยินเช่นนี้ ฮูหยินยังจะตอบแทนด้วยคุณธรรมแก่ข้าเช่นนี้ ทำให้ข้านับถือจริงๆ”
“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว มา เริ่มเถอะ ก็แค่คำนับศีรษะต่อหน้าคนพวกนี้ ข้าจะไปตามทหารทางการมาเดี๋ยวนี้แหละ”
อ่าน พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว เสี่ยวโหม บทที่ 310 คำนับ 100 ที นวนิยายออนไลน์ฟรี
The พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว เสี่ยวโหม บทที่ 310 คำนับ 100 ที ซีรีส์ได้รับการอัปเดตพร้อมรายละเอียดใหม่มากมาย ขนานกับลักษณะบุคลิกภาพนั้น คือ อารมณ์ของคนที่รักชีวิต รักชีวิต อยากหนีจากสถานการณ์ชีวิตที่มืดมนและน่าสลดใจ ในบทที่ พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 310 คำนับ 100 ที ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน กล่าวได้ว่า พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นวนิยาย บทที่ 310 คำนับ 100 ที เป็นบทที่อ่านง่ายที่สุดในซีรีส์ พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว ชุดนี้
พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว เสี่ยวโหม บทที่ 310 คำนับ 100 ที
พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 310 คำนับ 100 ที