พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 309

ใครจะไปคิดว่าเฟิ่งชิงหัวพยักหน้าออกมาโดยตรง แล้วยิ้มจางๆ : “เป็นความต้องการพอดี!”

ในขณะที่พูดอยู่เฟิ่งชิงหัวกลับหันมาทางฝูงชน: “รบกวนขอให้ทุกท่านที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้เป็นพยาน วันนี้หนานกงเยว่ลั่วเข้ามาในกรมคลัง เพียงเพื่อปกป้องคุ้มครองท่านพี่ใหญ่ เพื่อเลี่ยงไม่ให้นางถูกคนรังแกในคุก หากในครั้งนี้ข้าหนานกงเยว่ลั่วไปแล้วมิได้กลับ ขอให้คนที่มีจิตใจดีช่วยไปร้องทุกข์ให้ข้าด้วย ไปที่ศาลาว่าการพระนครช่วยข้าส่งมอบกระดาษคำร้องทุกข์ให้แก่ใต้เท้าเจ้ากรมเหยียนที่นั่นด้วยเถิด”

ในฝูงชนแน่นอนว่าย่อมมีผู้รู้หนังสือจำนวนมากที่มือถือพู่กันและหมึกที่ไว้ต่อกรกับโลกใบนี้ ได้ยินคำพูดของนางก็รีบมีคนรับคำขึ้นมาทันที

“ได้ เจ้าไปเถอะ หากบนตัวของเจ้าเส้นผมแม้แต่เส้นเดียวขาดหายไป ข้าก็จะไปช่วยเจ้าตีกลิงร้องทุกข์ที่ศาลาว่าการพระนครด้วยตัวเอง”

“ใช่! พวกเราต่างทราบว่าเจ้าได้ตัดขาดจากเฉิงเซี่ยงไปนานแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำความผิดด้วยกันกับเขาอย่างเด็ดขาด”

“ไม่เลว ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนกับน้ำที่สาดออกไป ไม่มีเหตุผลว่าในตอนที่เสพสุขก็ผลักเจ้าออกไป รอจนถึงตอนที่มีทุกข์กลับจะให้เจ้ามารับผิดชอบด้วย เหตุผลนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ฟังไม่ขึ้น”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างเห็นใจผู้อ่อนแอ ในตอนนี้เฟิ่งชิงหัวในสายตาของคนพวกนี้ก็เป็นหญิงสาวที่มีคุณธรรมที่พ่อทอดทิ้งไปคนหนึ่ง ถูกพระสวามีปลดทิ้ง อีกทั้งยังไม่ลืมที่จะปกป้องพี่น้อง ดูยังไงก็เป็นความสวยงามทางสติปัญญาที่ควรค่าแก่การให้คนมีการศึกษาเหล่านี้ติดตาม เอานางเป็นแบบอย่างของความเมตตาอีกทั้งยังมีคุณธรรมที่หนักแน่น

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าก็ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้” เฟิ่งชิงหัวโน้มร่างมาทางด้านของฝูงชนอย่างนอบน้อมมีมารยาท

ใต้เท้าถังที่อยู่ด้านข้างได้ฟังก็เกือบจะโมโหจนจมูกเบี้ยวไปเลย จะไปคิดได้ยังไงว่าเฟิ่งชิงหัวจะใช้ไม้นี้ได้

ความสัมพันธ์ของขุนนางในตอนนี้กับผู้มีการศึกษาพวกนี้ก็ดูเคร่งเครียดพอตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะองค์ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันดูให้ความสำคัญกับผู้มีการศึกษาพวกนี้มาก หากเขาล่วงเกินผู้มีการศึกษาพวกนี้ องค์ฮ่องเต้จะต้องจัดการเขาเป็นคนแรกแน่นอน

ในตอนนี้ใต้เท้าถังก็เลยรู้สึกว่าเฟิ่งชิงหัวผู้นี้หากเข้ามาในกรมคลังแล้วจะกลายเป็นเผือกร้อนไปได้ อีกทั้งไม่สามารถตบตีและด่าว่าได้ด้วย คนเขาแม้ว่าจะถูกปลดทิ้งแล้วก็ตาม แต่ในตอนนี้ก็ถูกผู้มีการศึกษาเหม็นเปรี้ยวที่น่าขยะแขยงกลุ่มนั้นปกป้องเอาไว้เช่นกัน

เรื่องนี้แม้ว่าจะรู้ไปถึงฝ่าบาททางด้านนั้น นั่นเขาก็ไม่มีเหตุผลเอาตัวรอดได้เลย ไม่แน่ว่าเฟิ่งชิงหัวมาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาแสดงละครฉากนี้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกจับไปในภายหลัง

หนานกงจี๋เจ้าเล่ห์มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ลูกสาวของเขาย่อมไหลลื่นมากยิ่งกว่าเขา

ใต้เท้าถังคิดทบทวนไปมาแล้วเอ่ยปากกล่าวออกมาว่า: “ข้าไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล รายชื่อในครั้งนี้ไม่มีเจ้า แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่ต้องเข้าไปในกรมคลัง รีบไปให้พ้นซะ”

เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น: “ใต้เท้า ท่านพูดเช่นนี้ก็เห็นได้ชัดว่าจะกลับกลอกไปหน่อยหรือเปล่า ตอนเริ่มแรกก็ช่มขู่ข้า ในตอนนี้ก็เห็นว่าข้ายินดีที่จะไปแล้ว ยังจะบอกว่าตนเองมีเหตุผลอีก งั้นเมื่อครู่คำพูดที่ท่านพูดเป็นไปได้ไหมว่าไม่มีเหตุผล? อีกอย่างหากข้าไม่ไป คนของกรมคลังพวกท่านเกิดถูกตาต้องใจความสวยของพี่ใหญ่ข้า คิดจะวางอุบายชั่วจะทำอย่างไร?”

ใต้เท้าถังได้ยินก็รีบตวัดสายตามองไปยังใบหน้าของทหารทางการคนก่อนหน้าผู้นั้นทันที คนผู้นั้นรีบคุกเข่าลงร้องขอชีวิต: “ใต้เท้า ข้าน้อยเปล่าเลยนะ นี่เป็นการใส่ร้าย ต้องเป็นการปรักปรำแน่นอน”

เฟิ่งชิงหัวกล่าวออกมาอย่างน่าขำ: “ชายชาตรีพูดออกมาแล้วยากจะคืนคำได้ ทำไมท่านถึงได้กลับไปกลับมาอย่างผิดปกติเช่นนี้? หรือเป็นไปได้ไหมว่า ภายใต้เกาะนอกที่เข้มแข็งนี้ของท่านจะมีหญิงสาวน้อยที่เหมือนเช่นข้าซ่อนเอาไว้อยู่? ท่านกรีดขวางเช่นนี้ หรือเป็นไปได้ว่าในนั้นจะมีอะไรปิดบังซ่อนเล่นอยู่? ยังไงพี่ใหญ่ของข้าก็เป็นถึงคนงามอันดับหนึ่งแห่งเทียนหลิง ถูกคนคลั่งไคล้หลงใหลในความงามก็ไม่แปลก แต่ว่าคนเราฆ่าได้หยามไม่ได้ หากเรื่องได้สืบแน่ชัดแล้วว่าจวนเฉิงเซี่ยงทั้งตระกูลไร้มลทิน งั้นความบริสุทธิ์ของพี่ใหญ่ข้าใครจะมารับประกันได้?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว