ราชันอสูรสงครามสะท้านภพ นิยาย บท 12

ภายนอกโบราณสถานใจกลางป่าต้องห้าม

กองกำลังประมาณสองร้อยคนอยู่ในชุดออกศึกของตระกูลผู้พิทักษ์  ซึ่งเป็นเครื่องป้องกันเวทระดับสามมีน้ำหนักเบา มีความทนทานต่อกระโจมตีจากพวกวิญญาณสูง  ขณะนี้พวกเขากำลังต่อสู้อยู่กับกองทัพวิญญาณแค้นจำนวนมากมายอย่างดุเดือด

เปรี้ยง!

ตูม!

เสียงการโจมตีของอาวุธเวท ถูกส่งออกมาจากค่ายกลประสานเจ็ดดารา โดยแยกกันลงมือเป็นเจ็ดกลุ่ม  ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและส่งเสริมกัน  ทำให้สามารถกำจัดพวกวิญญาณแค้นได้ครั้งละมากๆ แต่ทว่าจำนวนของมันไม่เพียงไม่ลดลงกลับยังเพิ่มขึ้นทุกที

“ ท่านผู้อาวุโสสี่  มีพวกวิญญาณแค้นถูกดึงดูดมาจากฝั่งทางเหนือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลยขอรับ ” บุรุษชุดเทาผู้หนึ่งเหยียบบนกระบี่บินเข้ามารายงาน

 

ชายชราในชุดขาวที่เป็นคนถือแผ่นหยกควบคุมค่ายกลหลัก  เขายืนอยู่ท่ามกลางผู้คุ้มกันหลายคนมีสีหน้าวิตกเล็กน้อย  เมื่อสังเกตเห็นกองกำลังของตระกูลที่เริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากขึ้นทุกที

“ ทางวัดหมื่นพุทธมาถึงรึยัง ” ผู้อาวุโสสี่ถามไปยังผู้คุ้มกันด้านข้าง ตัวเขาต้องใช้สมาธิทั้งหมดควบคุมเขตอาคมที่กำลังผนึกราชันวิญญาณสีเลือดทั้งสามตนเอาไว้

“ ไต้ซือคงเกี่ยงกับสิบแปดอรหันต์ทองคำ  ถูกกากเดนที่เหลือรอดจากพรรคมารกลืนวิญญาณกับราชันวิญญาณสีเลือดหลายตนปิดล้อมไว้อยู่ขอรับ ” ชายชุดเทาด้านข้างกล่าวรายงานด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

ผู้อาวุโสสี่ยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง เขามองไปทางราชันวิญญาณสีเลือดทั้งสามตนที่กำลังพยายามทำลายผนึกออกมา  สถานการณ์ตอนนี้ปล่อยไว้นานคงไม่ดีนัก แม้ต่อให้ได้ชัยชนะแต่ความสูญเสียที่จะได้รับมันมากเกินไป    เวลาก็ผ่านมานานแล้วกลับไม่มีกำลังเสริมจากผู้อาวุโสคนอื่น แสดงว่าตรงด้านอื่นก็โดนโจมตีเช่นกัน

 

ณ  ส่วนควบคุมหลักเขตอาคมสะกดมาร

 

ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกขุดลึกเข้าไปในภูเขาหิน  สถานที่นี้ได้รับการคุ้มกันด้วยเขตแดนป้องกันจำนวนมากเนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเขตอาคมสะกดมาร ที่นี่มียอดฝีมือระดับปราณนภานับร้อยของตระกูลผู้พิทักษ์  ซึ่งเวลานี้กำลังรับมือสัตว์อสูรมีพิษจำนวนมหาศาล ทั้งงูพิษที่มีปีกบินได้ หนอนพิษหลากสีและแมงมุมพิษขนาดตัวเท่าสุนัข

“ พรรคมารหมื่นพิษเจ้าถึงกับกล้าร่วมมือกับพรรคมารกลืนวิญญาณ  หรือไม่เห็นถึงจุดจบของประมุขพรรคโลหิตมารที่ถูกเจี่ยสือดูดกลืนปราณชีวิตจนตายรึ ”  หญิงสาวชุดขาวร้องตระโกนขึ้น  นางมีหน้าตางดงามอายุประมาณสามสิบปี กำลังเหยียบอากาศเหาะเหินคุ้มกันอยู่ด้านหน้าโถงค่ายกล

“ เจ็ดกระบี่ดาราสวรรค์! ”

กระบี่ในมือนางพุ่งออกไปเบื้องหน้า หลังจากนั้นก็แยกออกเป็นเจ็ดเล่มเปล่งประกายเจิดจ้าระเบิดพลังสังหารเข้าฟาดฟันสัตว์อสูรพิษเจ็ดทิศทาง จนพวกมันกลายเป็นเศษซากกระเด็นไปทั่ว  ช่วยลดความกดดันให้สมาชิกตระกูลคนอื่นที่สู้อยู่ได้เป็นอย่างมาก

 

ทางด้านฝั่งตรงข้ามภายในกองทัพสัตว์อสูรพิษนับล้าน มียายเฒ่าคนหนึ่งยืนอยู่กับหญิงวัยกลางคนที่เป็นผู้คุ้มกันทั้งสี่คน

“ ไป่เซี่ยเอ๋อวันนี้ยายเฒ่าทำไปเพราะความจำเป็นบังคับ ไม่ได้มีเจตนาเป็นศัตรูกับตระกูลผู้พิทักษ์จริงๆ ” ยายเฒ่าประมุขพรรคหมื่นพิษลอบส่งเสียงทางลมปราณตอบมา

ไป่เซี่ยเอ๋อที่กำลังต่อสู้อยู่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะส่งเสียงทางลมปราณถามกลับไป “ ท่านประมุขพรรคหมื่นพิษหมายถึง…”

“ หลานสาวเราถูกคนของพรรคมารกลืนวิญญาณจับตัวไว้ บีบบังคับเราให้มาตรึงกองกำลังเจ้าไว้ทางด้านนี้ ” ประมุขพรรคหมื่นพิษตอบ  นางหันหน้ามองไปยังด้านหนึ่งของภูเขาหิน ซึ่งมีเด็กหญิงตัวเล็กอายุประมาณสิบขวบหมดสติอยู่ นางถูกอุ้มไว้ในมือของชายชุดดำปกปิดใบหน้าสองคน

 

หลังจากไป่เซี่ยนเอ๋อสังเกตเห็นจุดที่เด็กหญิงคนนั้นถูกจับตัวไว้อยู่ ก็เข้าใจถึงเหตุผลที่พรรคหมื่นพิษถึงส่งเพียงแค่สัตว์อสูรพิษเข้าโจมตีเพียงอย่างเดียว  เพราะหากตัวประมุขพรรคและเหล่าผู้อาวุโสลงมือแพร่พิษเอง พวกนางคงทำได้แค่ปิดตายทางเข้าห้องโถงแล้วหลบอยู่ด้านในเพียงเท่านั้น

แต่ในขณะนั้นเอง..

 เปรี้ยง !  

ฝ่ามือทองคำขนาดใหญ่ตบเขาใส่กลุ่มผู้คุ้มกันของตระกูลผู้พิทักษ์นับสิบคนจนกระเด็นออกไป  ทั้งยังมีส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

!!

เสียงบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นจากเบื้องหลังของกองทัพอสูรพิษ

“ เรื่องน่าสนุกเช่นนี้จะขาดอาตมาไปได้เช่นไร ” หลวงจีนชุดขาวเดินเหยียบอากาศเข้ามาอย่างช้าๆ จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้าไป่เซี่ยเอ๋อ 

“ หลวงจีนมารฝาเซี่ยง !” 

ไป่เซี่ยเอ๋อตระโกนขึ้นด้วยความตกใจ  แม้นางจะไม่เคยพบเจอกับหลวงจีนชุดขาวมาก่อน แต่รูปภาพของหลวงจีนมารฝาเซี่ยงได้ถูกแจกจ่ายให้สมาชิกตระกูลผู้พิทักษ์ทุกคน  ในฐานะศัตรูที่อยู่ระดับเดียวกับจอมมารกลืนวิญญาณเลยทีเดียว

เพราะเมื่อสิบห้าปีก่อนตอนฝาเซี่ยงบุกเข้าห้องโถงค่ายกลสะกดมาร ได้เอาชนะอาวุโสสองภายใต้ความช่วยเหลือจากเขตอาคม ทั้งยังทำให้ผู้อาวุโสสองได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังสามารถหลบหนีจากขบวนรบพิทักษ์ค่ายกลสิบสองคนซึ่งอยู่ในขอบเขตปราณนภาชั้นสูงออกไปได้อีกด้วย

แต่ภายหลังจากที่ฝาเซียงหลบหนีสำเร็จ เขาก็หายสาบสูญไปนานถึงสิบห้าปี ไม่คาดว่าวันนี้จะปรากฎตัวอออกมาทั้งยังร่วมมือกับจอมมารกลืนวิญญาณเจี่ยสืออีกด้วย

 

ความเคลื่อนไหวทุกอย่างหยุดชะงักในทันที  แม้แต่แม่เฒ่าประมุขพรรคหมื่นพิษยังออกคำสั่งให้สัตว์อสูรพิษล่าถอยออกมา  ตัวนางเองเมื่อได้เห็นการลงมือของหลวงจีนชุดขาวก็รับรู้ได้เลยว่าเป็นผู้ที่อยู่ในขอบเขตเดียวกัน ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงให้ตัวนางเป็นอันมาก เพราะตัวนางเองกว่าจะมาถึงขอบเขตพลังในปัจจุบันก็มีอายุเกินพันปีแล้ว  แต่ฝาเซี่ยงนั้นยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีเลย  สมกับที่เคยเป็นอดีตอัจฉริยะอันดับหนึ่งในวัดหมื่นพุทธ

ตอนนี้สนามรบได้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายยืนเผชิญหน้ากัน โดยมีหลวงจีนชุดขาวอยู่ตรงกลาง  ไม่มีผู้ใดกล้าขยับตัว

 

“ อามิตาพุท…ประสกไป่วันนี้อาตมาเพียงต้องการของบางอย่างภายในห้องโถงค่ายกล  หากประสกเปิดทางให้อาตมาจะช่วยขับไล่พรรคมารหมื่นพิษให้ ประสกไป่เห็นเป็นเช่นไร ”

ไป่เซี่ยเอ๋อมีสีหน้าหมองคล้ำ  นางรู้ถึงสิ่งที่หลวงจีนมารต้องการ แต่หากสูญเสียร่างเก้าหยินไป พลังสะกดโดยรวมของค่ายกลทั้งหมดจะลดลงไปหลายส่วน  เพราะเหตุการณ์เมื่อสิบห้าปีก่อนนั้นได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับค่ายกลสะกดมารเป็นอันมาก 

ครั้งนั้นไม่ได้มีเพียงพลังมารนอกพิภพถูกร่างเก้าหยินดูดกลืนไป มันยังรวมไปถึงพลังส่วนหนึ่งที่บรรพชนเซียนทิ้งไว้ในเขตอาคมสะกดมารอีกด้วย

 

แม้นางจะรู้สึกสงสารหญิงสาวที่เป็นเจ้าของร่างเก้าหยิน  แต่ด้วยภาระหน้าที่ของตระกูลผู้พิทักษ์ที่ต้องปกป้องความสงบสุขของคนทั้งแผ่นดิน  เราไม่อาจปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้ชีวิตของผู้คนอีกนับล้านๆต้องมาเสี่ยงได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอสูรสงครามสะท้านภพ