รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 31

บทที่ 31 พิจารณาดีๆ

“ประธานมู่ พวกเราซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อบริษัทนะ!”

พนักงานที่อยู่รอบๆต่างพูดออกมาทีละคนๆ และมองเฉียวมั่นหลัวด้วยสายตาที่โกรธแค้น

พูดไม่ได้ก็ไม่ต้องพูด!

“เฉียวมั่นหลัว คุณจัดการงานข้ามแผนกมาไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ถึงผมจะไม่ค่อยอยู่ในประเทศบ่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าจะไม่รู้อะไรเลย”มู่เฉินหย่วนกล่าว“คนที่บริษัทมู่ซื่อรับมาเป็นพิเศษ ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถไล่เขาออกได้”

หัวหน้าซ่งพยักหน้าเห็นด้วย

ก็ใช่ไง เขาคือคนที่แย่งชิงมาได้จากบริษัทคู่แข่งอื่นๆอย่างยากลำบาก หล่อนบอกว่าไล่ออกก็ไล่ออกเหรอ?

หน้าไม่อาย!

เฉียวมั่นหลัวกุมมือทั้งสองข้างไว้ อยากจะพูดอะไรออกมา แต่มองเห็นแววตาที่เศร้าหมองของมู่เฉินหยวน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณทำลายชื่อเสียงของบริษัท และไม่ใช่มีแค่คุณคนเดียว มู่หยางซิวก็โดนไล่ออกด้วย”มู่เฉินหย่วนเอนหัวและตัวพูดกับผู่ช่วยจางว่า“จับตาดูผู้จัดการเฉียวส่งต่องานให้เสร็จ ภายใน 3 ชั่วโมงเชิญหล่อนออกไป”

ผู้ช่วยจางตอบกลับ:“ผมจะจัดการอย่างดีครับ”

มู่เฉินหย่วนมองนาฬิกาข้อมือแล้วมองอีก คล้ายกับว่าใช้เวลาที่อยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว พูดจบจึงเดินออกไป

ถังซินที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาอ้าปากจะพูดอะไรออกมา อยากพูดอะไรก็ไม่พูด

หล่อนคาดไม่ถึงว่ามู่เฉินหย่วนจะเข้าบริษัท และมาจัดการกับเรื่องพวกนี้ แต่มู่เฉินหย่วนไล่เฉียวมั่นหลัวกับมู่หยางซิวออก ก็นับว่าช่วยหล่อนทางอ้อมละกัน

นี่คงไม่นับว่าหล่อนเป็นหนี้บุญคุณอีกรอบนะ?

แปปนึง คนที่ล็อบบี้ก็ต่างแยกย้ายกันไปหมด ถังซินกับหลี่ซูเจ๋ก็ขึ้นลิฟท์กลับไปแผนกตนเอง

“ถังซินคุณก็สุดยอดไปเลย แผนการนี้ใช้ได้นะเนี่ย เกือบจะจับหน่วยลับได้แล้ว” หลี่ซูเจ๋ตื่นเต้นสุดๆ “หญิงร้ายชายเลวก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ทำให้พวกเขาจนมุม!”

ถังซินไม่ได้พูดอะไรออกมา

หล่อนไม่ใช่คนใจร้ายใจดำ หล่อนก็แค่เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงให้หลินเฉิงจี๋แต่งงานกับมู่หยางซิว แต่ร่างกายดันมีอุปสรรค ในใจก็รู้สึกผิดต่อมู่หยางซิว

ก็แค่ มู่หยางซิวใจร้ายเกินไปแล้ว

ถ้าหากเขาอยากจะหย่าก็พูดได้ แต่หล่อนไม่คัดค้าน หย่าโดยไม่เอาอะไรไปเลยก็ยินยอม แต่ว่าเขากับเฉียวมั่นหลัวร่วมมือกันอยากให้หล่อนเสียชื่อเสียง หล่อนก็ไม่สามารถอดทนต่อไปได้แล้ว

หลังจากแยกกับหลี่ซู่เจ๋ ถังซินกลับไปที่แผนกล่าม เพื่อนร่วมงานต่างรุมเข้ามาถาม สายตาที่เต็มไปด้วยความดีใจเมื่อคนอื่นผิดพลาดปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ไมใช่“ความเป็นห่วง”ที่แท้จริง

ถังซินตอบกลับตามมารยาท

“โธ่ ถังซิน ได้ยินว่ามู่หยางซิวคือลูกพี่ลูกน้องของประธานมู่ งั้นเธอก็คือ......หลานสะใภ้ของประธานมู่?”

ไม่รู้ใครว่าพูดออกมา บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที

“ได้ยินว่าหัวหน้าหลิวจะไปสาขาที่นิวยอร์ก หัวหน้าหลิวไปแล้ว งั้นพวกเราจำเป็นต้องมีหัวหน้าคนใหม่ เธอน่ะยอดเยี่ยมที่สุดท่ามกลางพวกเราแล้ว และยังเป็นหลานสะใภ้ของประธานมู่อีก ประธานมู่ต้องดูแลเธอดีแน่ๆ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า,ฉันก็อยากจะถามเหมือนกัน!”

“พวกเธอนี่หูดีกันจริงๆ รู้กันหมดเลยว่าหัวหน้าหลิวจะไปที่สาขานิวยอร์ก ขนาดฉันยังไม่รู้เลย”ถังซินกวาดตามองพวกเขา พร้อมกับยิ้ม:“พวกเธอไปถามหัวหน้าหลิวตรงๆว่าจะเลือกใครไม่ดีกว่าเหรอ?”

เพื่อนร่วมงานที่โดนถังซินกวาดตามองสีหน้าก็เปลี่ยนทันที พร้อมบ่นพึมพำกลับไปว่า:“พวกเราก็ไม่ได้อะไรนี่ ก็แค่ถามเฉยๆไหม ถ้าหากหัวหน้าหลิวเลือกเธอ พวกเราก็แค่อยากแสดงความยินดีกับเธอล่วงหน้า”

“เธอว่างขนาดนี้ ทำเอกสารภาษาอิตาลี่ 2 ไฟล์นั้นให้เสร็จก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”ถังซินมองไปที่เพื่อนร่วมงานคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา“หัวหน้าบอกว่าจะเอาวันพฤหัสบดี。”

เพื่อนร่วมงานคนนั้นหดไหล่ ค่อยๆเดินถอยหลังไปออกไป

ถังซินกวาดตามองไปรอบๆเพื่อนร่วมงานอีกรอบหนึ่ง พร้อมกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า:“ทุกคน ฉันกับมู่หยางซิวจะหย่ากันแล้ว หลังจากนี้เรื่องที่ว่าฉันคือหลานสะใภ้ของประธานมู่ ก็ไม่ต้องพูดแล้ว โอเคไหม?”

“ทุกคนต่างก็รู้ว่า ประธานมู่ไม่ชอบพนักงานที่พูดอะไรเรื่อยเปื่อยที่สุด ฉันเข้ามาแผนกล่ามที่บริษัทมู่ซื่อได้ ก็ผ่านการสัมภาษณ์เลือกเข้ามา ทุกคนก็เหมือนกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน