ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง

“ให้โหรวเอ๋อร์คลอดลูกชายไม่ก็ลูกสาวให้ท่านอ๋อง ขอแค่โหรวเอ๋อร์มีลูก ความสนใจทั้งหมดก็จะไปอยู่กับลูก ถ้ามีคนในจวนนี้คนไหนที่ไม่ชอบโหรวเอ๋อร์ ด่าว่าโหรวเอ๋อร์เสีย ๆ หาย ๆ โหรวเอ๋อร์ก็คงจะไม่รู้สึกทรมานใจเท่าไหร่แล้ว"
กู้โม่หานขมวดคิ้วคมได้รูปจนพันแน่นเป็นปม "ถ้าคนรับใช้ในจวนนี้มีใครชอบปากยื่นปากยาวนินทาเจ้านาย เจ้าก็ให้พ่อบ้านกาวจัดการได้เลย ให้จัดการโดยตรง อย่าได้ลังเลเด็ดขาด!"
แต่ไหนแต่ไรมา คนในจวนแม่ทัพมักมีนิสัยหยิ่งยโสเป็นนิจ เรื่องนี้เขารู้ดี บางทีอาจมีคนเผลอทำเรื่องหยาบคายอะไรแบบนั้นออกมาบ้าง แต่ในจวนอ๋องของเขาแห่งนี้ ถึงกับมีใครที่มันขวัญกล้าบังอาจขนาดนี้ ถึงขั้นรังแกโหรวเอ๋อร์เลยเชียวรึ?
ถ้ามีคนกล้าก่อเรื่องเกะกะระรานอย่างนี้จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องให้โหรวเอ๋อร์อ้าปากพูด พ่อบ้านกาวก็ต้องรีบชิงจัดการโดยตรงไปก่อนแล้ว....
เขาอดไม่ได้ที่จะมองนางอีกสองสามครั้ง พินิจพิเคราะห์นางอีกเล็กน้อย
หยุนอี่ว์โหรวฝืนยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ แฝงท่าทีดูถูกตัวเองอยู่หลายส่วน
“จะปิดปากของทุกคนไม่ให้นินทาย่อมเป็นเรื่องยาก เดิมทีพวกเขาต่างก็คิดว่าโหรวเอ๋อร์เป็นคนที่ไร้สิทธิ์ไร้อำนาจ จะงัดข้อกับพระชายาก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่ ต่อให้พ่อบ้านกาวจะคอยช่วยโหรวเอ๋อร์ แล้วจะอย่างไรต่อไปล่ะ.…”
นางพูดในลักษณะว่าตัวเองมีฐานะต่ำต้อยมาก กู้โม่หานได้ยินแล้วพลันรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่เขาก็ยังตรึงร่างของหยุนอี่ว์โหรวให้รักษาระยะห่างไว้ แล้วมองเข้าไปในดวงตาของนาง
“เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า หลายวันมานี้ไม่ได้ใส่ใจดูแลเจ้าให้ดี ข้าจะมอบอำนาจการดูแลภายในจวนให้เจ้า ถ้ายังมีใครที่กล้าวิจารณ์เจ้าอีก เจ้าก็จัดการตามกฎของจวนได้เลย ดีหรือไม่? "
หยุนอี่ว์โหรวแสร้งทำเป็นปฏิเสธ ดวงตาเบิกกว้างด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ "นี่จะได้อย่างไรกันเจ้าคะ ท่านอ๋อง....."
เขาเม้มปาก “ข้าลั่นวาจาไปแล้ว เจ้าก็อย่าได้บอกปัดอีกเลย นอกจากนี้ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เจ้าพอใจ”
ไม่จำเป็นต้องใช้ลูกไม้พรรค์นี้เพื่อมาเตือนเขาหรอก
ทำแบบเดียวกันกับหนานหว่านเยียนไปเลย เปิดเผยตรงไปตรงมาดีที่สุด
หยุนอี่ว์โหรวกลับไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ น้ำตาคลอเต็มสองเบ้าตา โผตัวเข้าไปซุกซบในอ้อมแขนของกู้โม่หาน
"โหรวเอ๋อร์ขอบคุณท่านอ๋องมากเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านอ๋องผิดหวังอย่างแน่นอน!"
แต่หยุนอี่ว์โหรวได้เตรียมแผนการทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะทำให้กู้โม่หานเห็นอกเห็นใจ นางจึงไม่ลังเลที่จะร่วมมือกับเชี่ยนปี้เพื่อแสดงละครฉากโศกในชื่อ "จวนแม่ทัพ" เพื่อสร้างสถานการณ์ที่แม้กู้โม่หานจะไม่ได้ร่วมหอกับนาง แต่ก็จะตกปากสัญญากับตัวเองว่าจะมอบอำนาจการดูแลภายในจวนให้นาง
ตอนนี้อำนาจอยู่ในมือของนาง แม้ว่าหนานหว่านเยียนจะเป็นพระชายา แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจที่แท้จริง จะเอาอะไรมาสู้กับนางได้?
ใบหน้าขาวกระจ่างดั่งมงกุฎหยกของกู้โม่หานพลันมืดมน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : "ร่างกายของเจ้าอ่อนแอมาโดยตลอด เรื่องร่วมหอยังไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ พักผ่อนต่ออีกสักสองสามวันเถอะ ข้าจะให้พ่อบ้านกาวส่งมอบงานในจวนให้เจ้าจัดการ ถ้าเจ้ารู้สึกว่ามันยากเกินไป ก็ยังไม่ต้องรีบเริ่มงานก็ได้”
หยุนอี่ว์โหรวก็ไม่โต้เถียงอะไรให้มาก แค่ยิ้มให้เขา "เจ้าค่ะ โหรวเอ๋อร์ขอตัวแล้ว"
นางผละออกมาจากอ้อมแขนของเขา เสี้ยววินาทีที่หันหลังกลับ รอยยิ้มหวานหยดย้อยก็หุบลงทันที เปลี่ยนเป็นสีหน้าอึมครึมเย็นชา.....
ที่เรือนเซียงหลิน
หลินอวี้เฟิงเก็บหนังสือเรียบร้อย จบการประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้แก่สองหนูน้อยในวันนี้
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยวิ่งไปที่ประตูพร้อมกัน ค้อมกายคำนับก่อนจะกล่าวลาหลินอวี้เฟิงอย่างถูกต้องตามมารยาทอันดี "อาจารย์หลิน เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ!"
หนานหว่านเยียนรีบรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจาย ระหว่างเดินออกจากห้อง ก็เห็นลูกสาวทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว จึงรีบเดินตรงดิ่งเข้าไปหา
เมื่อเห็นแม่ สองศรีพี่น้องก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที รีบวิ่งกระโดดโลดเต้นเข้าไปกอดหนานหว่านเยียนด้วยความดีใจ "ท่านแม่! ไม่ได้พบท่านเพียงหนึ่งวัน ราวจากกันถึงสามปีเลยเจ้าค่ะ”!"
หนานหว่านเยียนถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ลูบหัวพวกนางพี่น้องด้วยความเอ็นดู
"ดูพวกเจ้าช่างเก่งกาจมากความสามารถจริง ๆ เหมือนว่าจะได้เรียนรู้อะไรดี ๆ มาไม่น้อยเลยสินะ?"
นางหันไปมองหลินอวี้เฟิงด้วยสายตาเป็นมิตร ก่อนจะยิ้มแย้มเจิดจ้า "อาจารย์หลิน ลูกสาวทั้งสองของข้าสร้างความลำบากให้ท่านแล้ว"
หลินอวี้เฟิงชำเลืองมองหนานหว่านเยียนด้วยแววตาซับซ้อนแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่สองหนูน้อยที่กำลังยักคิ้วหลิ่วตาให้เขา พูดตะกุกตะกักขึ้นว่า: "ไม่ใช่ปัญหา คุณหนูน้อยทั้งสองล้วนเป็นต้นกล้าชั้นดี ติดแค่ว่า... แค่ว่า... ข้ายังมีธุระที่ต้องไปจัดการ ต้องขอตัวก่อน พระชายากับคุณหนูน้อยค่อย ๆ คุยกันเถอะนะ”
ส่วนเรื่องอะไรนั้น อาจารย์หลินไม่กล้าพูด แค่วิ่งอ้าวออกจากเรือนเซียงหลินไป ราวกับกำลังหนีตายก็ไม่ปาน
หนานหว่านเยียนรู้สึกสงสัยไปชั่วขณะ จากนั้นก็เหมือนจะจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
บางทีอาจารย์หลินอาจจะยังมีความรู้สึกอันหลากหลาย เกี่ยวกับรสนิยมการอ่านที่ "โดดเด่นไม่เหมือนใคร" ของนางก็เป็นได้
แต่นางเองก็ไม่รู้ว่า ในช่วงสองวันมานี้ ลูกสาวที่แสนดีทั้งสองของนางไปทำอะไรกันมาบ้าง ——
หลังจากที่หนานหว่านเยียนออกไป เกี๊ยวน้อยก็ลากซาลาเปาน้อยเดินย่อง ๆ ไปที่ประตูเรือนหลังกันสองคน เพื่อตามหาอวี๋เฟิงที่ยังแอบงีบหลับอยู่
“พี่อวี๋เฟิง!”
อวี๋เฟิงที่ไม่ทันตั้งตัวถูกทำให้ตกใจจนผงะ เมื่อเห็นเด็กน้อยทั้งสอง หัวใจของเขาก็เต้นรัวดั่งลั่นกลองรบ
“แม่ทูนหัวน้อยทั้งสอง วันนี้มีอะไรอีกล่ะขอรับ?”
นับตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาถูกลากลงน้ำไปด้วย สองศรีพี่น้องคู่นี้ก็มักจะวิ่งมาถามเรื่องแปลก ๆ บางอย่างกับเขา ยกตัวอย่างเช่น "มีวิธีไหนที่จะทำให้พระชายาผู้จมจ่อมกับอดีตเปลี่ยนใจเสียใหม่" หรือไม่ก็ "ทำอย่างไรถึงจะลืมคนคนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว" เป็นต้น
อวี๋เฟิงแทบจะถูกถามจนขยาดหวาดกลัวไปหมดแล้ว
เกี๊ยวน้อยกระพริบตาปริบ ทำท่าทางลึกลับมีเลศนัย "เจ้าว่า พวกเราจะไปหาผู้ชายที่ทั้งเก่งกาจทั้งหล่อเหลาได้จากที่ไหนรึ?"
อวี๋เฟิงตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง แข็งทื่อเป็นไก่สลักไปเลย
คุณหนูน้อยทั้งสองคนนี้ ยังอายุน้อยอยู่เลยแท้ ๆ ทำไมถึงได้.....
เขามองดูแก้มยุ้ย ๆ ที่ใสกระจ่าง ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ยังไร้เดียงสาของสองศรีพี่น้อง พูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดโศกเศร้าว่า " คุณหนูทั้งสองท่าน ....พวกท่านอายุยังน้อย เรื่องแบบนี้พวกท่านยังไม่....."
ไม่สิ! นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอายุเลยเข้าใจหรือไม่? !
ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของคุณหนูทั้งสองจะเป็นอย่างไรล่ะ?!
เกี๊ยวน้อยพัวพันไม่เลิกรา จับแขนเสื้อของเขาแล้วส่ายไปมาไม่หยุด ก่อนจะหันไปขยิบตาให้ซาลาเปาน้อย
ซาลาเปาน้อยเข้าใจสัญญาณนั้นได้ในทันที วิ่งไปอีกด้านหนึ่งแล้วดึงรั้งชายเสื้อของเขา ดวงตาคู่โตมีน้ำเอ่อคลอ ดูน่าสงสารราวกับในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
“พี่อวี๋เฟิง พี่บอกพวกเราหน่อยเถอะ ได้หรือไม่?”
หัวใจของอวี๋เฟิงอ่อนยวบ เผลอพูดโพล่งออกมาว่า
"ที่หอคณิกา กับย่านเริงรมย์มีผู้ชายหน้าตาดีอยู่ขอรับ"
พูดจบ เขาก็ตบหน้าตัวเองอย่างแรงไปหนึ่งฉาด
นี่เขายังทำเรื่องที่คนดี ๆ เขาทำกันอยู่ไหมเนี่ย! ?
ซาลาเปาน้อยกับเกี๊ยวน้อยก็ยิ้มร่า พลางกล่าวขอบคุณเขาโดยพร้อมเพรียง
ปล่อยให้เจ้าตัวคิดวนเวียนไม่หยุดว่า หรือควรรอให้หนานหว่านเยียนกลับมา แล้วบอกนางเรื่องความคิดที่ดูแล้ว “อันตราย” ของคุณหนูทั้งสองดีหรือไม่ จากนั้นค่อยคุกเข่ายอมรับผิด
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ที่จริงแล้วหนูน้อยทั้งสองกำลังมองหาสามีให้กับหนานหว่านเยียนต่างหาก
ช่วงเวลาที่หลินอวี้เฟิงกำลังสอนวันนี้ บังเอิญเป็นช่วงที่หนานหว่านเยียนออกไปพอดี
จะไปหาพ่อที่สามารถปกป้องท่านแม่ แล้วก็ดีกับพวกเราได้จากที่ไหนเจ้าคะ? เมื่อวานนี้พี่อวี๋เฟิงบอกว่าให้ไปย่านเริงรมย์ แต่ก่อนหน้านี้ท่านแม่เคยพูดไว้ว่า
ในเวลานั้นหลินอวี้เฟิงกำลังดื่มน้ำอยู่พอดี เขาถึงกับพ่นน้ำออกจากปากเต็ม ๆ ก่อนจะสำลักกระอักไออย่างรุนแรง
เขาสูญเสียความตระหนักรู้ในตนเองไปชั่วขณะ คิดไปคิดมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไรดี แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลยุทธ์ “ใช้ไม้อ่อนหว่านล้อมไม่หยุด” ของยัยหนูทั้งสองได้
"นี่ก็.... บางทีถ้าไปที่สำนักศึกษาอื่น ก็อาจจะพอหาเจอก็เป็นได้"
หวังว่าท่านอ๋องกับพระชายา .....คงจะไม่สับเขาเละเป็นชิ้น ๆ หรอกนะ
เมื่อเกี๊ยวน้อยได้ยิน ก็เอามือท้าวคางพลางนิ่วหน้าครุ่นคิด
ย่านเริงรมย์ สำนักศึกษา ที่เหล่านี้จะหาผู้ชายดี ๆ ได้อย่างนั้นรึ?
อืม ——
อ่านนวนิยายออนไลน์ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง ได้ฟรี
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ อัปเดตบทล่าสุด บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง ใน th.readeraz.com . ที่ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง นักแสดงนำชายและหญิงยังคงอยู่ที่จุดสูงสุด ซีรีส์ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ อารั่ง บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง เป็นซีรีส์นวนิยายที่ดีมาก ดึงดูดผู้อ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง ให้รายละเอียดที่น่าตื่นเต้นแก่ผู้อ่าน เนื้อหาใดที่ผู้เขียน อารั่ง จะนำเรามาที่ บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง ติดตาม ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง ได้ที่เว็บไซต์ th.readeraz.com.
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ อารั่ง บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง
นวนิยาย ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 184 คลอดลูกให้ท่านอ๋อง