ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว

นางเพิ่งจะตะโกน ก็เห็นว่าคุณหนูน้อยทั้งสองอยู่ที่นั่นด้วย จึงรีบกลืนคำพูดที่เหลือกลับลงไปทันที
หนานหว่านเยียนเลิกคิ้ว ก่อนจะยืนขึ้นด้วยสีหน้าปกติ หันไปยิ้มให้หนูน้อยทั้งสองแล้วพูดว่า "เอาเถอะ พวกเจ้าไปเล่นกันก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะไปคุยธุระกับพี่เซียงอวี้หน่อย"
เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง
หนานหว่านเยียนปรายตามองเซียงอวี้แวบหนึ่ง "มีเรื่องอะไรถึงได้ลนลานขนาดนี้?"
เซียงอวี้จงใจลดเสียงลง เข้าไปกระซิบพูดข้างหูของหนานหว่านเยียนว่า "พระชายา ท่านอ๋องมอบสิทธิ์ในการดูแลจวนแห่งนี้ให้กับพระพระชายารองหยุนไปแล้วเจ้าค่ะ"
สำหรับเรื่องนี้ คนรับใช้อย่างพวกนางต่างก็เตรียมใจเอาไว้นานแล้ว เพราะจะอย่างไร ความสำคัญของหยุนอี่ว์โหรวในจวนอ๋องแห่งนี้ก็มีน้ำหนักกว่า แต่หยุนอี่ว์โหรวก็แต่งเข้ามานานพอสมควรแล้ว ท่านอ๋องกลับไม่เคยพูดถึงเรื่องการมอบสิทธิ์ให้นางดูแลจวนมาก่อน นางจึงคิดว่ายังพอมีที่ว่างสำหรับเรื่องบางอย่างที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไป
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า สุดท้ายก็ยัง.....
ในใจของหนานหว่านเยียน ปั่นป่วนดั่งถูกเกลียวคลื่นซัดโถมขึ้นมาโดยพลัน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที "ให้สิทธิ์ดูแลจวนกับหยุนอี่ว์โหรวไปอย่างนั้นรึ?"
ต่อให้นางจะเป็นพระชายาที่ถูกทอดทิ้งก็ดี หรือต่อให้มีความเกลียดแค้นชิงชังกันอยู่ลึก ๆ ก็ช่าง แต่นางก็ยังมีตำแหน่งเป็นพระชายา กู้โม่หานถึงกับมอบสิทธิ์ดูแลจวนไปให้กับหยุนอี่ว์โหรวเลยรึ?
นี่ไม่เท่ากับลากนางมาตบหน้าท่ามกลางสาธารณชนหรอกหรือ?!
เซียงหลียนเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะไม่สู้ดี จึงรีบไปดึงตัวสองหนูน้อยพาเดินไปที่เรือนหลังทันที
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยเงยหน้าขึ้นมองเซียงเหลียน แล้วถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบเด็ก ๆ ว่า "พี่เซียงเหลียน สิทธิ์ในการดูแลจวนคืออะไร?"
สีหน้าของเซียงเหลียนซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร เวลานี้เอง อวี๋เฟิงก็เข้ามารายงานว่า: "พระชายา พระพระชายารองหยุนมาแล้วขอรับ"
หนานหว่านเยียนยิ้มหยันเย็นชา "มาได้จังหวะพอดี"
นางมองไปที่ลูกสาวตัวน้อยทั้งสอง "พวกเจ้าเข้าไปเล่นในบ้านก่อนนะ อวี๋เฟิง ดูแลพวกนางสองคนให้ดีด้วย"
อวี๋เฟิงรีบตอบรับทันที "ขอรับ พระชายา"
สองศรีพี่น้องยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกอวี๋เฟิงอุ้มไปเลยตรง ๆ เขาเพิ่งจะพาคุณหนูทั้งสองจากไป น้ำเสียงออเซาะฉอเลาะของหยุนอี่ว์โหรวก็ดังขึ้นในเรือนเซียงหลิน
"พระชายา"
หนานหว่านเยียนมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวจอมเสแสร้ง ดวงตาอาบย้อมไปด้วยแววเย็นยะเยือกดั่งสระน้ำแข็งที่ลึกล้ำจนไร้ก้นบึ้ง
"เจ้าว่างมากรึ?"
หยุนอี่ว์โหรวเดินด้วยท่าทางผ่อนคลายไม่รีบไม่ร้อน ก่อนจะโค้งคำนับให้หนานหว่านเยียนเล็กน้อย
“ตอนแรกก็ว่างอยู่ แต่เมื่อครู่นี้จู่ ๆ ท่านอ๋องก็มอบสิทธิ์ดูแลจวนให้ข้าน้อยเป็นคนจัดการ ข้าน้อยคิดว่าควรมาบอกพระชายาสักหน่อย เพราะถึงอย่างไร นี่ก็เป็นของที่ควรจะเป็นของพระชายา ข้าน้อยได้มาโดยไร้เหตุผลแบบนี้ ในใจจึงรู้สึกละอายอยู่ไม่น้อย"
เชี่ยนปี้เดินตามหลังหยุนอี่ว์โหรวมาติด ๆ เชิดปลายคางจนสูง ทั้งหยิ่งยโสทั้งลำพองใจสุดขีด
เซียงอวี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แทบจะโกรธตายให้ได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่เห็นสายตาที่ไม่ต่างจากหมารับใช้ที่อาศัยบารมีของเจ้านายทำมาอวดเบ่งนั่น นางก็แทบจะอดใจไม่ไหว อยากตบหน้าอีกฝ่ายสักฉาดให้หน้าหันไปเลย!
สองนายบ่าวนี่ แต่ละคนโอ้อวดถือดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยจริง ๆ!
เซียงเหลียนก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
หนานหว่านเยียนมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวอย่างเย็นชา ก่อนจะแค่นยิ้มดูถูก
“ถือของที่ไม่ใช่ของตัวเอง ไม่เจ็บมือแย่หรอกรึ? อ้อ! ข้าลืมไปเลย แผลเป็นครั้งก่อนหายดีแล้วอย่างนั้นรึ?”
พอพูดถึงมือ หยุนอี่ว์โหรวยังรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ ที่ฝ่ามือไม่หาย สายตาพลันเย็นเยียบ ก่อนจะเดินไปข้าง ๆ หนานหว่านเยียน ยกยิ้มด้วยสีหน้าไร้เดียงสา เอ่ยปากพูดอย่างเย็นชาด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคนว่า
“พระชายา ท่านอ๋องเป็นของข้า ไม่มีใครแย่งชิงไปได้ทั้งนั้น ต่อให้เจ้าจะเป็นพระชายาก็ตาม อย่างไรก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด!”
“อีกอย่าง ข้ามีสิทธิ์ในการดูแลจวนอยู่ในมือแล้ว ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายข้า ข้าก็จะใช้การลงโทษตามกฎจวนมาลงโทษเจ้า!”
.....................
ในขณะนั้น สองพี่น้องที่ถูกอวี๋เฟิงบังคับอุ้มไปต่างก็ไม่มีความสุขอย่างยิ่ง
"ผู้หญิงคนนั้นดูน่ารังเกียจตั้งแต่แวบแรกที่เห็นเลย! สายตาของนางทำให้ข้าอึดอัดไปหมด"
"จริงด้วย! เจ้าดูสิ ท่านแม่อยู่ต่อหน้านางดูไร้ที่พึ่งพิงขนาดไหน! พี่อวี๋เฟิง รีบปล่อยพวกเราลงไปเถอะนะ!"
เดิมทีอวี๋เฟิงใช้มือหนึ่งข้างอุ้มหนึ่งคนก็เปลืองแรงพออยู่แล้ว มาตอนนี้แม่เจ้าประคุณทูนหัวสองคนนี้ก็ยังดิ้นรนอาละวาดไม่หยุด ทำให้เขาลำบากใจเหลือเกินแล้ว
“พระชายามีเรื่องที่ต้องจัดการ คุณหนูทั้งสองไปเล่นที่เรือนหลังด้วยกันก่อนนะขอรับ”
พระชายาแข็งแกร่งกว่าหยุนอี่ว์โหรวมาก ไม่ใช่หญิงสาวผู้ "อ่อนแอ" อะไรหรอก
เห็นได้ชัดว่าเกี๊ยวน้อยไม่ยินดีรับน้ำใจนี้ นางยกเท้าขึ้นกลางอากาศพลางท้าวเอวหมับ ทำท่าทางขึงขังจริงจังเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย "องครักษ์อวี๋เฟิง!"
พอมองดูดี ๆ อีกที ท่าทางของเกี๊ยวน้อยเหมือนกับพระชายาตอนที่เรียกชื่อเขาเป็นครั้งแรกมาก
เขาอดไม่ได้ที่จะโพล่งตอบไปว่า "ขอรับ!"
เกี๊ยวน้อยโกรธจนทำแก้มพองลม "ปล่อยข้าลงไปเดี๋ยวนี้!"
เป็นแบบนี้ทุกที ขอแค่เมื่อไหร่ที่มีคนนอกมา ท่านแม่ก็จะบอกให้พวกนางไปซ่อน
แต่อันที่จริง พวกนางไม่อยากต้องคอยหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว! คนพวกนั้นเอาแต่มารังแกท่านแม่อยู่เสมอ พวกนางไม่ใช่ภาระ พวกนางก็สามารถเป็นเกราะป้องกันให้ท่านแม่ได้เหมือนกัน!
ครั้งนี้ พวกนางจะปรากฏตัวอย่างเปิดเผยและยึดมั่นในความเป็นธรรม!
อวี๋เฟิงผงะไปชั่วขณะ เพียงครู่เดียวที่ไม่ทันระวัง เกี๊ยวน้อยก็หลุดออกจากหว่างแขนของเขาไป
ซาลาเปาน้อยตกใจจนหน้าซีดเผือด ร้องเรียกขึ้นมาเบา ๆ ว่า "พี่สาว!"
อวี๋เฟิงคืนสติทันที เห็นกับตาว่าเกี๊ยวน้อยวิ่งออกไปได้สองสามก้าวแล้ว มือคว้ากิ่งไม้ขึ้นมากิ่งหนึ่ง ทำท่าว่าจะวิ่งเข้าไปหาหยุนอี่ว์โหรวอย่างก้าวร้าวดุดัน
เขาพุ่งเข้าไปรวบตัวเกี๊ยวน้อยขึ้นมาในก้าวเดียว พลิกกายเบา ๆ แล้วกระโดดออกจากเรือนไป
สองพี่น้องถูกอวี๋เฟิงพาไปยังเรือนหลัง ที่นี่ห่างจากเรือนหน้าเป็นระยะทางพอสมควร
“องครักษ์อวี๋เฟิง!” เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะพวกนางไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ปกป้องท่านแม่!
เมื่อสังเกตเห็นสุนัขสองตัวที่นอนอาบแดดอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงมุมเรือนพัก เกี๊ยวน้อยสมองแล่นฉิว บังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา.....
เมื่อครู่มีความเคลื่อนไหวบางอย่าง ทำให้หยุนอี่ว์โหรวหันหน้าไปมอง แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย
ในดวงตาของนางปรากฏแววสงสัยขึ้นมาวูบหนึ่ง ละจากข้างหูของหนานหว่านเยียน ก่อนจะปรับสีหน้ากลับไปยิ้มอย่างอ่อนแออีกครั้ง
หนานหว่านเยียนเหลือบเห็นจากทางหางตาว่าเกี๊ยวน้อยลอบเข้ามา หัวใจของนางพลันเต้นรัวดั่งกลองรบ แต่ยังดีที่อวี๋เฟิงมือเท้าว่องไว
ชั่วขณะนั้นเอง นางก็เก็บสีหน้าอารมณ์ แล้วเดินตรงเข้าไปหาหยุนอี่ว์โหรวด้วยท่วงท่าอันสง่างาม
หยุนอี่ว์โหรว เรื่องชายชู้เมื่อคราวก่อน ข้ายังไม่ได้ไปคิดบัญชีกับเจ้าเลย
ทำเอาหยุนอี่ว์โหรวเกิดความรู้สึกร้อนตัวขึ้นมา ถูกนางบังคับให้เดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่ากำลังจะเดินพ้นออกนอกประตูเรือนเซียงหลินอยู่แล้ว โชคดีที่เชี่ยนปี้ร้องเรียกนางด้วยความร้อนใจขึ้นเสียก่อน
หยุนอี่ว์โหรวรีบหยุดฝีเท้า หลุบสายตาลงแสร้งทำเป็นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
“พระชายาพูดอะไรกัน? ข้าน้อยได้อธิบายให้ท่านฟังอย่างชัดเจนกระจ่างแจ้งแล้ว ข้าน้อยไม่รู้เรื่องเมื่อคราวก่อนเลยแม้แต่น้อย แต่พระชายากลับเอาแต่ใส่ความข้าน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า”
“แม้ว่าข้าน้อยจะมีสิทธิ์ในการดูแลจวนในมือ แต่ก็จะไม่ทำอะไรโดยประมาทเด็ดขาด ขอพระชายาโปรดวางใจได้”
หนานหว่านเยียนหัวเราะหยัน
“อย่ามาทำเสแสร้งต่อหน้าข้าหน่อยเลย ไอ้ของอย่างสิทธิ์การดูแลจวนนี่น่ะ ต่อให้ไอ้หน้าโง่กู้โม่หานนั่นยกให้เจ้าไป เจ้าจะมีปัญญารักษามันไว้ได้หรือไม่ล่ะ?”
เจ้ามันก็เป็นแค่เมียน้อยคนหนึ่ง ถ้าในจวนเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นมา อย่างเจ้าจะรับผิดชอบอะไรได้? วัน ๆ ก็เอาแต่นั่งร้องห่มร้องไห้
กระทั่งเซียงอวี้ก็ยังคิดไม่ถึง ว่าหนานหว่านเยียนจะเผชิญหน้ากับการยั่วยุของหยุนอี่ว์โหรวได้อย่างใจเย็นขนาดนี้ เรียกได้ว่าท่วงท่าไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
ใครมีชั้นเชิงที่เหนือกว่า มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่าที่จะได้เป็นนายหญิงของจวน คงต้องมาวัดกันที่ความสูงต่ำในเวลานี้แล้ว!
—” หยุนอี่ว์โหรวตกตะลึงจนหน้าถอดสี แอบกัดฟันกรอด ๆ
หนานหว่านเยียนถึงกับเรียกนางว่าเมียน้อยต่อหน้าคนรับใช้เลยเชียวรึ? !
เรื่องมาจนถึงตอนนี้ กระทั่งสิทธิ์อำนาจในการดูแลจวน ก็ยังใช้กดทับนังผู้หญิงต่ำช้าคนนี้ไว้ไม่ได้แล้วอย่างนั้นรึ!
ดวงตาของนางไหววูบด้วยแผนการร้าย รอบ ๆ นี้ไม่มีคนรับใช้ มีแค่เซียงอวี้กับเซียงเหลียนที่เดินตามหลังหนานหว่านเยียนอยู่
อ่านนวนิยายออนไลน์ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว
นวนิยายชุด ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว เป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของผู้เขียน อารั่ง ที่ บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตัวเอกชายและหญิงได้แก้ปัญหาให้กันและกัน ความรักของนางเอกช่างสูงส่งเสียเหลือเกิน ที่ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว ในที่สุด นางเอกก็ตระหนักถึงความรู้สึกของเขา ความรักของพวกเขาจะชนะทุกสิ่งหรือไม่? ติดตาม ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ อารั่ง บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว ที่ th.readeraz.com ได้แล้ววันนี้
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ อารั่ง บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว
นวนิยาย ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 185 สั่งสอนแม่ดอกบัวขาว