คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 85

1 ปีต่อมา

@ภายในโรงแรมหรูระดับหกดาวแห่งหนึ่ง

งานแต่งของริว และเจนิสถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติและสมฐานะลูกชายคนที่สองของตระกูลดัง สำนักข่าว สื่อต่างๆ ได้ให้ความสนใจในงานแต่งของริวและเจนิสกันอย่างล้นหลาม ซึ่งตอนนี้ผู้หญิงที่ชื่อเจนิส เจนิตา กลายเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุด สะใภ้คนเล็กของคุณหญิงปรางค์ทิพย์และภรรยาคนสวยของนักธุรกิจหนุ่มหล่อชื่อดังอย่างริว รัฐพลนั่นเอง

ร่างบางของเจนิสอยู่ในชุดราตรีลูกไม้แขนยาวสีขาว แค่ราคาชุดที่สวมใส่อยู่นั้น ก็มีมูลค่าถึงเจ็ดหลัก ซึ่งเป็นแบรนด์ดังของเหล่าพวกผู้ดีไฮโซนั้นใส่กัน นั้นเอง พอไปอยู่บนตัวของเจนิสแล้วนั้น เรียกได้ว่า เจ้าสาวนั้นสวยสง่างาม อย่างไม่มีที่ติกันเลยทีเดียว ใบหวานสวยหวานถูกแต่งแต้มเครื่องสำอางโดยช่างฝีมืออันดับต้นๆ ของประเทศ ที่เนรมิตเจ้าสาวค่ำคืนนี้ ราวกับเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย ความสวยสง่าสมกับสะใภ้ตระกูลดัง ไม่ว่าจะมองมุมไหน ใบหน้าสวยหวานของเจนิส ก็สามารถสะกดแขกที่มาในงานได้ทุกสายตา เล่นเอาซะเจ้าบ่าวสุดหล่ออย่างริวนั้นถึงกับหยุดมองใบหน้าสวยหวานของภรรยาตัวเล็กไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ในที่สุดค่ำคืนที่แสนพิเศษของเขาและเจนิสกก็มาถึงซักที บรรยากาศภายในงานที่เต็มไปด้วยแขกของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ค่ำคืนที่มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแขกและเหลาผู้ที่มาร่วมงานของทั้งสองครอบครัว

ร่างบางในชุดเจ้าสาวเดินมาพร้อมกับมีเจ้าบ่าวใบหน้าหล่อเหลานั้นยืนเคียงคู่ ในมืออีกข้างของเจนิสถือช่อดอกกุกลาบสีขาว ส่วนมืออีกข้างนั่นจูงมือเจ้าหญิงตัวน้อยอย่างน้องฟร้อนท์ที่วันนี้แต่งชุดสวยไม่แพ้กับมารดา มาในชุดนางฟ้าสีขาวมีที่คลาดผมสีขาวคลาดบนหัว ที่เดินเตาะแตะมากับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู

ส่วนคนพ่อสุดหล่ออย่างริวนั้น ก็ไม่น้อยหน้าของภรรยามืออีกข้างจูงแขนลูกชายสุดที่รักอย่างน้องฟรอสต์ที่มาในชุดเจ้าชายตัวน้อยชุดสูททักชิโดเด็กถูกโบว์สีแดง ใบหน้าที่หล่อถอดแบบมาจากคุณพ่อ เดินจูงมือเข้าร่วมฉลองงานมงคลสมรสของบิดาและมารดาของตน ซึ่งเหล่าบรรดาแขกผู้ใหญ่และเพื่อนของริว และเจนิส ที่เห็นภาพน่ารักของครอบครัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างยกยิ้มและชื่นชมไปตามๆ กัน ทั้งคู่นั้นมีพยานรักตัวน้อยทั้งสองร่วมเป็นสักขีพยานรักในงานสมรสของริวและเจนิส ค่ำคืนนี้ที่เต็มไปรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท ใบหวานสวยหวานในลุคเจ้าสาวของเจนิสเสมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดินจูงมือของฉันและลูกๆ ขึ้นมาหยุดบนเวที

ฉันไม่คิดไม่ฝันว่าฉันจะได้แต่งงาน กับผู้ชายที่ฉันเมาที่พลาดมีอะไรกับเขานั่นวันนั้น จะทำให้ฉันนั้นมีความสุขมากในวันนี้ ร่างบางเสมองใบหน้าของริวมาด้วยรอยยิ้มอันสดใส ที่วันนี้เจ้าบ่าวของฉันมองมุมไหนก็หล่อและเท่ห์ไปหมด

"ขอบคุณพี่ริวนะคะ ที่ทำให้เจ นั้นมีวันนี้" เอาจริงตั้งแต่ที่ฉันตั้งครรภ์น้องฟรอสต์ในตอนนั้น ฉันคิดว่าชีวิตนี้ฉันคงไม่ได้แต่งงานแล้ว เพราะฉันไม่คิดจะรักใครได้อีกนอกจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันอย่างพี่ริว

"พี่ขอบคุณเจ มากนะครับที่ให้อภัยและให้พี่ได้ดูแลเรา กับลูก จนเรามีวันสำคัญวันนี้ด้วยกัน" ร่างสูงของริวเอ่ยมาขณะที่ทั้งคู่เดินมาหยุดที่ตรงกลาง เพื่อจะโยนดอกไม้ให้กับเหลาโสดที่มารอรับช่อดอกไม้จากฉัน

"เจ ก็ขอบคุณพี่ริวนะคะ ที่รักเจ และเป็นพ่อที่ดีให้กับลูกๆ และเป็นสามีที่น่ารักของเจ รักพี่ริว และก็รักเจ้าตัวแสบของเรามากๆนะคะ " ใบหน้าสวยหวานในลุคเจ้าสาวแสนสวยเอ่ยกับสามีมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส ในค่ำคืนสุดแสนพิเศษ เสียงบทเพลงโรแมนติกที่เปิดคลอขึ้นมาเบาๆ แสงไฟสลัว ๆ บรรยากาศในงานที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก โดยสามีสุดที่รัก อย่างพี่ริวเนรมิตมันขึ้นมา งานแต่งงานในฝันของผู้หญิงหลายๆ มันทั้งสวยงดงามและอลังการเอามักมาก ทำเอาน้ำตาแห่งความตื้นตันใจของเจนิสถึงไปไหลอาบแก้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว โดยมีเจ้าบ่าวสามีสุดหล่อที่ยื่นมือมาเช็ดให้กับเจ้าสาวอย่างเบามือ ทำเอาแขกที่มาในงานถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาด้วยความน่ารักของบ่าวสาว

จากนั่นก็ถึงช่วงวินาทีที่สำคัญของใครๆ หลายคนที่รอคอยที่พิธีกรนั้นประกาศมี่เจ้าสาวนั้นจะโยนช่อดอกไม้ โดยพิธีกร และนักร้องที่ร้องเพลงในงานค่ำคืนนี้ให้กับเราสองคนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

พี่ริก และพี่นินิวนั้นเอง ที่พี่ริกนั่นถอดคราบพี่ชายของเจ้าบ่าวออกมาเป็นนักร้องๆ เสียงคลอเพลงที่ดังมาเบาๆ ทำเอาฉันถึงกับหยุดยิ้มให้กับงานวันนี้ไม่ได้เลยซักนิด จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา

"จุ๊บ เลย จุ๊บเลย" เสียงกลุ่มเพื่อนสนิทที่ดังขึ้นมา ไม่เว้นแม้แต่ริกที่จับไมท์ในมือ ก็ประกาศออกมา ทำเอาร่างบางที่เสมองใบหน้าของสามีอยู่นั้นถึงกับเขินเล็กน้อยที่ต้องมาจูบต่อคนหลายร้อนคน แต่นั้นก็ไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน แต่กับเป็นเสียงของกลุ่มเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว อย่างเรียวตะ อรัณ และก็มีรุ่นน้องของพี่ริว อย่างพี่เจมส์ พี่ดีเอ็ม และก็มีพี่ดีเทล ทอย ที่ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงขึ้นมา เพื่อให้พี่ริวนั้นจูบฉัน

"จูบ ก่อนเลย เจ้าสาว จูบเลย อย่าไปยอม จูบ ๆ " ส่วนอีกฝั่งที่ตระโกนเสียงดังมาไม่แพ้กันนั้นก็คือเพื่อนๆ ของฉัน อย่างยัยแซมมี่ ยัยน้ำอุ่น และยัยเฟย์ที่ตะโกนมาเช่นกัน

พอกลุ่มเพื่อนพี่ริว หยุดเสียงลง กลุ่มเพื่อนฉันก็ทำหน้าที่แซวตามทันที ฉันได้แต่ยกยิ้มให้กับพี่ริว ที่ตอนนี้เจ้าบ่าวสุดหล่อของฉัน นั้นเอาแต่ยืนนิ่งไม่ได้จะจูบฉันอย่างที่เพื่อนๆ ของเขาแซวมาแต่อย่างได้ เมื่อเป็นเช่นนั่น เจนิสสบตาเข้ากับร่างสูง

ใบหน้าสวยหวานไม่รอช้าร่างบางเป็นฝ่ายจูบคนต้วโตก่อนทันที เรียวลิ้นเล็กของเจนิสตวัดเข้าโพรงปากของคนตัวโตที่เต็มไปด้วยความรักที่ทั้งคู่นั่นมีให้กัน ด้านริวนี้ไงที่ผมไม่ยอมจูบเจนิสก่อน ก็เพราะอยากให้เธอนั้นเป็นฝ่ายจูบผมเสียเอง

ร่างบางค่อยๆ ถอนจูบออกจากคนตัวโต โดยพร้อมยกยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า เสียงปรบมือดังขึ้นมาทั่วทั้งในห้อง

"จูบอีก เอาอีก เจ้าบ่าวอย่ายอมครับ" เสียงไอ้ เชี่ยอรัณที่แหกปากตะโกนขึ้นมาบนเวที ด้วยท่าทีนึกสนุก มันคงจะเล่นผมกลับเหมือนงานแต่งงานมันนะสิ ริวได้แต่คิดในใจ

"ไอ้ริว ครับให้สมกับเป็นน้องชายกูหน่อย จูบอีก เอาอีกครับ คืนนี้เขาห้องหอจัดคนที่สามไปเลยครับไอ้น้อง" ให้ตายเถอะไอ้เชี่ยริกก็อีกคน ริวได้แต่เสมองไปยังโต๊ะของกลุ่มเพื่อนๆ ที่ตอนนี้พิธีกรทั้งสองอย่างริกและนินิวก็ลงไปร่วมกลุ่มเพื่อนแล้ว เพื่อดื่มสังสรรค์กัน

ด้านริวเมื่อโดนเพื่อนๆ ท่า มาเช่นนั่น เรื่องแบบนี้ท่ากันได้ที่ไหน ครับ ฝ่ามือหนาของริวไม่รอช้า จับเข้าที่ต้นคอของเจ้าสาวแสนสวย ประกบปากลงที่ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเจนิสทันที โดนมีเสียงกรี๊ด และเสียงเอ่ยแซวของเพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว นั้นเชียร์ขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ